0
| เคล็ดลับสุขภาพ

ปลาเห็ดโคนล่องป่า

  Add Friend
อัพเดตโปรโมชั่นและข่าวสารดีๆ ผ่านทาง LINE LIVE & FIT
ID : @Liveandfit
 11 ก.ค. 2562
 3655 ครั้ง
 | 
แชร์ 0 ครั้ง



Live & Fit Healthy Recipes “เมนูนี้ไม่มีน้ำตาล (No Sugar Added)”


ปลาเห็ดโคนล่องป่า

ส่วนผสม

เนื้อปลาเห็ดโคน   100 กรัม

เห็ดฟาง   15 กรัม

พริกไทยอ่อน    2 ฝัก

ฟักทองหั่นชิ้น   20 กรัม

มะเขือเปราะ ผ่าครึ่ง   5  ลูก

เนื้อมะละกอดิบ หั่นเป็นแผ่น   20 กรัม

มะเขือพวง   2 พวง

พริกชี้ฟ้า (สไลด์)  2-3 ดอก         

ตะไคร้ (หั่นเป็นท่อน)   2 ต้น

ใบมะกรูดฉีก  3-4 ใบ

ใบกะเพราเด็ด   2 ต้น

เครื่องแกงป่า   1-2 ช้อนโต๊ะ

ฮอทต้า ขิง100%   1 ซอง

กระเทียมโขลก   1 ช้อนชา

ฟิตเน่ สวีท สตีเวีย   1-2 ช้อนชา (เพิ่ม-ลด ตามชอบ)

น้ำปลา   2 ช้อนโต๊ะ

น้ำเปล่า หรือ น้ำซุป    2 ถ้วย

น้ำมันสำหรับผัดเครื่องแกง    ½ ถ้วย

วิธีทำ               

1.ผัดเครื่องแกงกับน้ำมันพร้อมกระเทียมพอหอม จากนั้นใส่ พริกไทยอ่อน ฮอทต้า ขิง100% มะเขือ เห็ดฟาง มะละกอ ฟักทอง ยกเว้นใบกะเพรา แล้วผัดพอเข้ากัน

2.เติมน้ำเปล่าลงไป รอจนเดือดแล้วจึงค่อยใส่ใบมะกรูดฉีก ตะไคร้ พริกสด ใบกะเพรา และปรุงรสด้วยน้ำปลา ฟิตเน่ สวีท สตีเวีย จากนั้นรอให้เดือดอีกครั้ง

3.ใส่เนื้อปลาเห็ดโคนลงไป รอให้สุกดีแล้ว ชิมรสชาติปลาเห็ดโคนล่องป่าเผ็ดซ่าซี๊ดซาด ได้คุณค่าขิงแก่สดอายุ 11-12 เดือน
 

enlightened รู้ไหมว่า...

พริกไทยอ่อน

นิยมรับประทานกันมาตั้งแต่โบราณ มีประโยชน์และสรรพคุณทางยาหลายอย่าง ใช้ผลสดนำมาปรุงรสเป็นส่วนผสมในเมนูต่าง ๆ อย่างมากมาย

พริกไทยอ่อน อุดมไปด้วย วิตามินซี, วิตามินเค, โพแทสเซียม, วิตามินเอ, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, เหล็ก, วิตามินบี1, วิตามินบี2, วิตามินบี3, วิตามินบี5, วิตามินบี6, วิตามินบี9, เบตาแคโรทีน, คาร์โบไฮเดรต, โปรตีน, ไขมัน และ ใยอาหาร

พริกไทยอ่อน ยังถือเป็นเป็นยาอายุวัฒนะ ที่มีส่วนช่วยแก้ลมจุกเสียด ขับลมในท้อง แก้ท้องอืด แก้ท้องร่วง ช่วยขับพยาธิ มีอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ บำรุงตับ ป้องกันโรคมะเร็ง บำรุงประสาท รักษาลมบ้าหมู รักษาลมชัก บำรุงธาตุ ช่วยให้เจริญอาหาร นอนหลับสบาย รักษาความดันโลหิตสูง แก้อาเจียน วิงเวียนศีรษะ บรรเทาอาการปวดฟัน แก้ไอ แก้หอบหืด ขับเสมหะ บรรเทาหวัด ลดไข้ รักษาโรคกระเพาะ บำรุงลำไส้ ช่วยย่อยอาหาร แก้อาการอักเสบ แก้ระดูขาว ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยขับไขมัน เสริมการเผาผลาญในร่างกาย ช่วยลดอาการปวดหัว ช่วยลดอาการปวดข้อ ช่วยขับเหงื่อ แก้อาการปวดท้อง ฯลฯ

ขิง

ขิง อุดมไปด้วยสาร จินเจอร์รอล, วิตามิน, ใยอาหาร และแร่ธาตุต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะขิงแก่สดอายุ 11 – 12 เดือน จะมีปริมาณสารจินเจอร์รอลมากที่สุด ซึ่งเป็นสารในกลุ่มฟีนอลที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ หรือเปรียบดั่งสมุนไพรรักษามะเร็ง นอกจากนี้ ประโยชน์ของขิง ยังสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ในร่างกายได้ อาทิ

ขิงแก้หวัด เพราะ “จินเจอร์รอล” สารสำคัญในขิง มีส่วนช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต และกระตุ้นการทำงานของระบบป้องกันร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ในขณะเดียวกัน ปริมาณเหงื่อที่มากขึ้น ก็ช่วยขับพิษหรือไวรัสออกจากร่างกาย จึงมีส่วนช่วย ป้องกันไข้หวัดได้ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยบรรเทาอาการอื่น ๆ ที่อาจมาพร้อมกับไข้หวัด เช่น

ขิงแก้เจ็บคอ จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมของใครหลาย ๆ คน ที่เวลารู้สึกเจ็บคอมักชอบจิบน้ำขิง เนื่องจากขิงสามารถช่วยต้านการอักเสบ รวมทั้งสามารถช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ตัวการของอาการเจ็บคอได้อีกด้วย

ขิงแก้ไมเกรน โดยมีการศึกษาวิจัยล่าสุดในต่างประเทศ ทำการศึกษาวิจัยในเรื่องการใช้ขิงรักษาอาการปวดไมเกรน โดยทำการศึกษาวิจัยในผู้ป่วยไมเกรน 100 ราย ในแผนกประสาทวิทยา ของโรงพยาบาลในประเทศอิหร่าน ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่รับประทานขิง อาการปวดไมเกรนลดลงดีเทียบเท่ากับกลุ่มที่รับประทานยาแก้ปวดแผนปัจจุบัน คือ สามารถลดอาการปวดไมเกรนได้ถึง 60% ภายในเวลา 2 ชั่วโมงหลังรับประทานยา และพบว่าแคปซูลขิง มีข้อดีที่เหนือกว่ายาแผนปัจจุบัน คือ ไม่พบอาการข้างเคียงจากการรับประทานยา ซึ่งการที่ขิงสามารถบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้นั้น น่าจะมาจากการที่ขิงมีฤทธิ์ในการลดกระบวนการอักเสบ ลดอาการปวดในร่างกาย ลดการสร้างสารพรอสตาแกลนดิน (prostaglandins) ที่ทำให้ปวดและอักเสบนั่นเอง

อีกทั้งความเผ็ดร้อนของขิงมีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้โคเลสเตอรอล หรือไขมันตัวร้ายแข็งตัว จึงมีส่วนช่วยป้องกันผลเสียที่อาจเกิดขึ้นกับระบบโลหิตภายในร่างกาย ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคหัวใจและโรคหลอดเลือด

อ่านประโยชน์ขิงเพิ่มเติมได้ที่ https://www.liveandfit.com/th/เคล็ดลับสุขภาพ/ประโยชน์ของขิง-ดีจริงจนต้องบอกต่อ.html

ตะไคร้

ตะไคร้ สมุนไพรคู่ครัวไทย ได้รับความนิยมในการนำมาปลูกในบริเวณบ้านเป็นพืชผักสวนครัว เพราะปลูกง่าย สะดวกแก่การนำมาใช้ปรุงอาหาร

คุณค่าทางโภชนาการของตะไคร้

ตะไคร้ 100 กรัม ให้พลังงาน 143 กิโลแคลอรี โดยประกอบไปด้วยคาร์โบไฮเดรต 29.7 กรัม, โปรตีน 1.2กรัม, ไขมัน 2.1 กรัม, ใยอาหาร 4.2 กรัม, แคลเซียม 35 มิลลิกรัม, ฟอสฟอรัส 30 มิลลิกรัม, ธาตุเหล็ก 2.6 มิลลิกรัม, น้ำ 65.6 กรัม, วิตามินเอ 43ไมโครกรัม, วิตามินบี1 0.05 มิลลิกรัม, วิตามินบี2 0.02 มิลลิกรัม, วิตามินซี 1 มิลลิกรัม, ไนอะซิน 2.2 มิลลิกรัม และเถ้า 1.4 กรัม

ประโยชน์ของตะไคร้

นอกจากนำมาเป็นเครื่องปรุงในอาหารแล้ว ตะไคร้ยังเป็นสมุนไพรที่มีที่มีส่วนช่วย ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น, ลดแก๊สในลำไส้, ลดโคเลสเตอรอล, ล้างพิษในร่างกาย, ป้องกันโรคมะเร็ง, รักษาความผิดปกติในระบบทางเดินหายใจ, ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ฯลฯ

ฟิตเน่ สวีท สตีเวีย หรือ ใบหญ้าหวานสกัด

เป็นวัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาลที่ผลิตจากสมุนไพรธรรมชาติ 100% ที่มีความพิเศษ โดยในส่วนของใบหญ้าหวานจะมีความหวานมากกว่าน้ำตาลทราย 15 เท่า และที่สำคัญสารสกัดจากใบหญ้าหวาน (Stevioside) จะให้รสหวานกว่าน้ำตาลทรายถึง 300 เท่า แต่ให้พลังงาน  0 แคลอรี่  ในขณะที่น้ำตาลทราย 1 ช้อนชาให้พลังงาน 16 แคลอรี่ อีกทั้งยังมีข้อดีที่ใบหญ้าหวานสกัดเหนือกว่าน้ำตาลทรายหลายอย่าง เช่น ทนต่อความร้อน, ไม่ทำให้อาหารเกิดสีน้ำตาลเมื่อผ่านความร้อนสูง, สามารถนำมาปรุงอาหารบนเตาร้อน ๆ ได้, นิยมนำมาปรุงเพิ่มรสชาติความหวานให้กับเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ และไม่ถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์  จึงไม่ทำให้อาหารเกิดการบูดเน่า ประการสำคัญที่สุด คือไม่ถูกดูดซึมในระบบการย่อย จึงไม่ให้พลังงาน  รับประทานเท่าไรก็ไม่ทำให้อ้วน และไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเปลี่ยนแปลงสูงขึ้น จึงเป็นความหวานที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ควบคุมน้ำหนัก และผู้รักสุขภาพทุกคน

นอกจากนี้ใบหญ้าหวานยังมีส่วนช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง  ช่วยเพิ่มพลัง และช่วยสมานแผลทั้งภายในภายนอก และที่สำคัญ ใบหญ้าหวานมีความปลอดภัยต่อร่างกาย เพราะเป็นความหวานที่ได้จากสมุนไพรธรรมชาติ 100%

บทความที่น่าสนใจ
see more