เคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “กินอะไรก็ได้แบบนั้น” กันมาบ้างไหมคะ ซึ่งเป็นคำกล่าวที่เป็นจริงโดยสามารถหาคำตอบได้ในทุกวันจากระบบขับถ่ายของคุณนั่นเอง
การขับถ่ายที่ดีนั้น ควรเป็นไปอย่างสะดวก สบาย และไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกผิดปกติ ไม่ว่าจะพิจารณาในด้านกลิ่น สี หรือรูปร่าง ลักษณะของกากของเสียที่บ่งบอกถึงสุขภาพลำไส้และอาหารการกินที่ดี และมีการขับถ่ายที่เป็นปกติ (จากการสำรวจของมหาวิทยาลัย Scandinavian Journal of Gastroenterology พบว่า คนส่วนใหญ่จะขับถ่ายราว 3 ครั้งต่อวัน จนถึง 3 ครั้งต่อสัปดาห์ (หรือราว ๆ 2 วันครั้ง) หากถ่ายมากกว่า หรือน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ อาจมองว่าผิดปกติได้
ขับถ่ายแบบไหน "ปกติ"
ขับถ่ายเป็นเวลา มาตามนัด ให้สม่ำเสมอและเป็นเวลา เพื่อให้ร่างกายและลำไส้เคยชินกับการขับถ่าย เวลาขับถ่ายที่เชื่อว่าดีที่สุด คือ ตอนเช้าเวลา 5.00 – 7.00 น. หรือหลังอาหารเช้า แต่ถ้าไม่สะดวกในช่วงเวลานี้ อย่างน้อยพยายามหาช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สามารถขับถ่ายได้อย่างเป็นเวลา สม่ำเสมอทุกวัน ควรให้เวลากับการถ่ายอุจจาระอย่างเพียงพอ ไม่เร่งรีบ
ลักษณะของอุจจาระ ควรมีลักษณะนุ่ม ถ่ายง่าย ไม่เจ็บ ไม่แสบ ไม่ทรมาน หรือไม่ต้องเสียเวลาเบ่งมาก รวมไปถึงกลิ่นที่ไม่เหม็นจัด ไม่มีมูกเลือด หรือเลือดสด ๆ ปน และมีสีเหลืองไปจนถึงน้ำตาล แปลว่าเป็นการขับถ่ายที่ปกติ
ขับถ่ายแบบไหน "ไม่ปกติ"
ขับถ่ายไม่เป็นเวลา ผิดนัด ถ่ายเป็นน้ำ ไม่มีกากใยอาหาร หรือมีจำนวนน้อย ปวดท้องแบบบิด ๆ หรือมวนท้อง มีอาการแสบ อุจจาระเป็นสีเข้มจัด หรืออ่อนจัด มีกลิ่นเหม็นมาก มีมูกเลือด หรือเลือดสด ๆ ปน หรือถ่ายบ่อยมากกว่า 4 ครั้งใน 1 วัน นอกจากนี้อุจจาระที่มีลักษณะเหมือนก้อนหินเล็ก ๆ หลายก้อน มีลักษณะแข็งกว่าปกติ ก็ถือว่าเป็นลักษณะของอุจจาระที่ไม่ปกติเช่นกัน อาจเกิดจากการดื่มน้ำน้อย และเป็นการขับถ่ายที่อาจส่งสัญญาณว่าลำไส้ใหญ่ขับถ่ายเอาอุจจาระออกมาไม่หมด อาจมีตกค้างอยู่บางส่วน
และอย่านั่งส้วมนาน ไม่ควรนั่งนานเกิน 10-15 นาทีในกรณีถ่ายหนัก เพราะว่าภายในห้องน้ำมีเชื้อโรคอยู่แล้ว โดยเฉพาะในห้องน้ำสาธารณะที่มีคนเข้าไปใช้บริการจำนวนมาก อีกทั้งการนั่งส้วมนานยังมีส่วนทำให้เกิดอาการเหน็บชา หน้ามืด และเสี่ยงต่อการเป็นโรคริดสีดวงทวารหนัก ท้องผูก อีกด้วย
ดูแลระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ ด้วยการดื่มน้ำให้มากขึ้น กินผักผลไม้ให้มากขึ้นและอาหารที่ให้ใยอาหารสูง ได้แก่ ผัก ผลไม้ ธัญพืช และผลไม้แห้งบางชนิด จะช่วยให้อุจจาระมีลักษณะอ่อนนุ่ม ขับถ่ายง่าย และออกกำลังเป็นประจำที่นอกจากจะช่วยให้ระบบการย่อย การเคลื่อนไหวของลำไส้เป็นไปอย่างปกติแล้ว ยังช่วยให้สุขภาพโดยรวมแข็งแรงอีกด้วย เพราะการขับถ่ายถือเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญของชีวิตเลยก็ว่าได้ การดูแลระบบขับถ่ายให้ดี จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจแข็งแรง สมองปลอดโปร่ง เกิดสมดุลในร่างกาย เมื่อระบบทางเดินอาหาร ระบบย่อยอาหาร ลำไส้ ทำงานได้ดี ก็มีส่วนช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเช่นกัน เพราะกว่า 70% ของภูมิกันของร่างกาย สร้างขึ้นในลำไส้ใหญ่ของเรานั่นเอง