0
| เคล็ดลับสุขภาพ

เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เกราะป้องกันต้านโรค

  Add Friend
อัพเดตโปรโมชั่นและข่าวสารดีๆ ผ่านทาง LINE LIVE & FIT
ID : @Liveandfit
 18 ก.พ. 2563
 2967 ครั้ง
 | 
แชร์ 0 ครั้ง



ภูมิคุ้มกัน (immune)
คือหนึ่งในปัจจัยภายในร่างกายที่มีส่วนสำคัญในการต่อสู้ป้องกันและต้านทานโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ซึ่งหากใครมีสุขภาพดีก็จะมีภูมิคุ้มกันเข้มแข็ง สามารถขจัดเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายและควบคุมโรค เช่น ภูมิแพ้ ไวรัส โรคมะเร็งและโรคร้ายแรงต่าง ๆ ที่กำลังก่อตัวไม่ให้ลุกลามจนเกิดเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมาได้

 

ภูมิคุ้มกันเปรียบเสมือนเกราะป้องกันหรือทหารต้านโรค ซึ่งความจริงแล้วเราอยู่กับเชื้อโรครอบตัวตลอดเวลา ในแต่ละวันอาจสัมผัสกับเชื้อโรคมากมาย แต่ทำไมเราถึงไม่เจ็บป่วย หรือนาน ๆ จะเจ็บป่วยสักที ก็เพราะร่างกายเรามีระบบภูมิคุ้มกันเซลล์เม็ดเลือดขาวที่เปรียบเสมือนเกราะป้องกันหรือทหารคอยจัดการปราบเชื้อโรค ถ้าเกราะป้องกันแข็งแรง เชื้อโรคก็ยากที่จะเข้ามา แต่หากช่วงใดร่างกายอ่อนแอก็จะส่งผลไปที่ระบบภูมิคุ้มกันด้วย เป็นเหตุให้บางครั้งเราก็ป่วยง่ายป่วยบ่อยนั่นเอง
 

 

สร้างเกราะป้องกันสุขภาพง่าย ๆ ด้วยการเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ที่คุณก็สามารถทำเองได้

1.กินอาหารที่ดีมีประโยชน์ จากคนที่มีร่างกายแข็งแรงก็กลายเป็นคนอ่อนแอได้ หากไม่ใส่ใจอาหารการกินให้ครบ 5 หมู่ ที่สำคัญต้องรู้จักเลือก “กินอาหารให้เป็นยา อย่ารอเวลาต้องกินยาแทนอาหาร” เพราะนอกเหนือจากการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่แล้ว เราควรเสริมด้วยอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และโดยมากจะอยู่ในผักผลไม้ที่มี วิตามินซี วิตามินอี วิตามินบี เบต้าแคโรทีน จินเจอร์รอล อาทิ แอปเปิ้ล องุ่น มังคุด ส้ม สตรอว์เบอร์รี ขิง เห็ดต่าง ๆ จำพวก เห็นหลินจือ เห็ดชิตาะเกะ ถั่งเฉ้า ฯลฯ ผักใบเขียวจัดหรือสีเหลืองส้มและแร่ธาตุซิลีเนียม หรือสังกะสี ที่พบในเนื้อสัตว์ อาหารทะเล นม หรือ ถั่วต่าง ๆ เป็นต้น

 

2.ออกกำลังกาย ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงและสร้างเกราะป้องกันอย่างดี เพราะการออกกำลังกายช่วยกระตุ้นให้ระบบการไหลเวียนเลือดดีขึ้น ส่งผลให้เม็ดเลือดขาวในเนื้อเยื่อต่าง ๆ แข็งแรงเพื่อจัดการกับเชื้อโรคได้ง่าย อีกทั้งร่างกายจะหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (Endorphins) ออกมาหลังการออกกำลังกาย ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด และความวิตกกังวล ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคภัยได้ โดยเราควรออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อย 30 นาที 3-4 วันต่อสัปดาห์

 

3. อารมณ์ (จิตใจ) มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อเราอารมณ์ดี อารมณ์ขัน เสียงหัวเราะและมีจิตเมตตา ก็จะส่งเสริมให้ร่างกายหลั่งสารหลายชนิด อาทิ เอนดอร์ฟิน (Endorphins) ที่ช่วยจัดการกับความเครียดและความไม่สบายได้อย่างดี ทำให้ชีวิตมีแต่ความสนุกสนาน กินอาหารได้อร่อย มีส่วนช่วยกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง หรือเรียกได้ว่า การหัวเราะเป็นยาวิเศษ และเมตตาธรรมก็เป็นยาวิเศษ ตรงกันข้าม ความเครียด การอมทุกข์  ซึมเศร้า ทำให้ร่างกายหลั่งสารหลายชนิด เช่น สเตียรอยด์ อะดรีนาลีน กดภูมิคุ้มกัน ทำให้โรคต่าง ๆ เช่น ไข้หวัด เจ็บคอ โรคภูมิแพ้ แผลร้อนใน คอพอกเป็นพิษ กำเริบ

 

4.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ควรนอนให้หลับสนิทและให้ได้อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง เพราะการเข้านอนเร็ว (ควรเข้านอนก่อน 4 ทุ่มของทุกคืน) เพื่อให้ร่างกายสามารถหลั่งโกรทฮอร์โมนได้ในปริมาณมาก โดยสารนี้จะช่วยชะลอวัย สมองจะได้รับการฟื้นฟู และร่างกายจะหลังสารแห่งความสุขออกมา ซึ่งทำให้ร่างกายเกิดความกระปรี้กระเปร่า และท่านอนควรเหยียดตรง ไม่ขดงอ นอกจากนี้ ภายในห้องควรมืดสนิทเพื่อให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) หรือ ฮอร์โมนที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นได้เอง มีบทบาทช่วยควบคุมการนอนหลับ ซึ่งหากฮอร์โมนดังกล่าวลดลงก็จะนำมาสู่ปัญหาในการนอนหลับได้ และการอดนอน นอนน้อย ทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอแย่เลยแหละ

 

ก่อนที่จะป่วยต้องรีบดูแลตัวเอง เราสามารถป้องกันร่างกายให้ห่างไกลความเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต้านโรค 4 ข้อง่าย ๆ ดังกล่าว ทั้งหมดนี้ควรปฏิบัติควบคู่กันเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงที่สุด yes

บทความที่น่าสนใจ
see more