0
| เคล็ดลับสุขภาพ

ปลาอินทรีย์ทอดราดซอสหวาน

  Add Friend
อัพเดตโปรโมชั่นและข่าวสารดีๆ ผ่านทาง LINE LIVE & FIT
ID : @Liveandfit
 15 พ.ย. 2562
 3041 ครั้ง
 | 
แชร์ 0 ครั้ง


Live & Fit Healthy Recipes “เมนูนี้ไม่มีน้ำตาล (No Sugar Added)”

ปลาอินทรีย์ทอดราดซอสหวาน

ส่วนผสม

เนื้อปลาอินทรีย์ 2 ชิ้น

เกลือ 1 ช้อนชา

พริกไทย 1 ช้อนชา

น้ำมันพืช 2 ถ้วยตวง

น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง

ซอสถั่วเหลือง 4 ช้อนโต้ะ

ฟิตเน่ สวีท สตีเวีย   4 ช้อนชา

ขิงหั่นแว่น 4 ชิ้น

ผักเคียง แครอท ซอยเป็นเส้น, แตงกวา หั่นชิ้นบางตามยาว, หรือผักที่คุณชอบ

ส่วนผสมน้ำจิ้ม

ฟิตเน่ สวีท สตีเวีย   2 ช้อนชา

หอมแดง ซอย   3 หัว

กระเทียม ซอย   2-3 กรีบ

น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

มะนาว   ½ ลูก

พริกขี้หนู (เขียว-แดง) ซอย   2-3 เม็ด

ผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน ใส่ถ้วยใบเล็ก ๆ น่ารัก

วิธีทำ

1.หมักปลาอินทรีย์ด้วยเกลือและพริกไทย พักไว้ประมาณ 15 นาที

2.ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน นำปลาอินทรีย์ลงทอดจนเหลืองกรอบ แล้วใส่จาน จัดผักเคียงไว้

3.ตั้งกระทะ ใส่น้ำเปล่า ใส่ซอสถั่วเหลือง, ฟิตเน่ สวีท สตีเวีย และขิงหั่นแว่น รอให้เดือดจนงวด

ตักราดปลาอินทรีย์ทอด หอม อร่อย กลมกล่อม ราดด้วยน้ำจิ้มรสเด็ด แซ่บครบทุกรส


enlightenedรู้ไหมว่า...

ปลาอินทรีย์

เป็นปลาที่นิยมนำมาทำเป็นอาหารลำดับต้น ๆ เนื่องจากมีรสชาติอร่อย และมีข้อมูลทางวิชาการยืนยันมากมายว่า ปลาอินทรีย์มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีและมีไขมันต่ำ รวมไปถึงอุดมไปด้วยโปรตีนคอลลาเจน ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ นอกจากนี้ ไขมันที่มีในเนื้อปลาอินทรีย์ ยังเป็นไขมันต่ำที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นไขมันชนิดไม่อิ่มตัว เช่น โอเมก้า3 สูงมาก, โอเมก้า6

ฟิตเน่ สวีท สตีเวีย หรือ ใบหญ้าหวานสกัด

เป็นวัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาลที่ผลิตจากสมุนไพรธรรมชาติ 100% ที่มีความพิเศษ โดยในส่วนของใบหญ้าหวานจะมีความหวานมากกว่าน้ำตาลทราย 15 เท่า และที่สำคัญสารสกัดจากใบหญ้าหวาน (Stevioside) จะให้รสหวานกว่าน้ำตาลทรายถึง 300 เท่า แต่ไม่ให้พลังงาน (0 แคลอรี่) ในขณะที่น้ำตาลทราย 1 ช้อนชาให้พลังงาน 16 แคลอรี่ อีกทั้งยังมีข้อดีที่ใบหญ้าหวานสกัดเหนือกว่าน้ำตาลทรายหลายอย่าง เช่น ทนต่อความร้อน, ไม่ทำให้อาหารเกิดสีน้ำตาลเมื่อผ่านความร้อนสูง, สามารถนำมาปรุงอาหารบนเตาร้อน ๆ ได้, นิยมนำมาปรุงเพิ่มรสชาติความหวานให้กับเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ และไม่ถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ จึงไม่ทำให้อาหารเกิดการบูดเน่า ประการสำคัญที่สุด คือไม่ถูกดูดซึมในระบบการย่อย จึงไม่ให้พลังงาน รับประทานเท่าไรก็ไม่ทำให้อ้วน และไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเปลี่ยนแปลงสูงขึ้น จึงเป็นความหวานที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ควบคุมน้ำหนัก และผู้รักสุขภาพทุกคน

นอกจากนี้ใบหญ้าหวานยังมีส่วนช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ช่วยเพิ่มพลัง และช่วยสมานแผลทั้งภายในภายนอก และที่สำคัญ ใบหญ้าหวานมีความปลอดภัยต่อร่างกาย เพราะเป็นความหวานที่ได้จากสมุนไพรธรรมชาติ 100%

ขิง

ขิง อุดมไปด้วยสาร จินเจอร์รอล, วิตามิน, ใยอาหาร และแร่ธาตุต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะขิงแก่สดอายุ 11 – 12 เดือน จะมีปริมาณสารจินเจอร์รอลมากที่สุด ซึ่งเป็นสารในกลุ่มฟีนอลที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ หรือเปรียบดั่งสมุนไพรรักษามะเร็ง นอกจากนี้ ประโยชน์ของขิง ยังสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ในร่างกายได้ อาทิ ขิงแก้หวัด เพราะ “จินเจอร์รอล” สารสำคัญในขิง มีส่วนช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต และกระตุ้นการทำงานของระบบป้องกันร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ในขณะเดียวกัน ปริมาณเหงื่อที่มากขึ้น ก็ช่วยขับพิษหรือไวรัสออกจากร่างกาย จึงมีส่วนช่วย ป้องกันไข้หวัดได้ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยบรรเทาอาการอื่น ๆ ที่อาจมาพร้อมกับไข้หวัด เช่น

ขิงแก้เจ็บคอ จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมของใครหลาย ๆ คน ที่เวลารู้สึกเจ็บคอมักชอบจิบน้ำขิง เนื่องจากขิงสามารถช่วยต้านการอักเสบ รวมทั้งสามารถช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ตัวการของอาการเจ็บคอได้อีกด้วย

ขิงแก้ไมเกรน โดยมีการศึกษาวิจัยล่าสุดในต่างประเทศ ทำการศึกษาวิจัยในเรื่องการใช้ขิงรักษาอาการปวดไมเกรน โดยทำการศึกษาวิจัยในผู้ป่วยไมเกรน 100 ราย ในแผนกประสาทวิทยา ของโรงพยาบาลในประเทศอิหร่าน ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่รับประทานขิง อาการปวดไมเกรนลดลงดีเทียบเท่ากับกลุ่มที่รับประทานยาแก้ปวดแผนปัจจุบัน คือ สามารถลดอาการปวดไมเกรนได้ถึง 60% ภายในเวลา 2 ชั่วโมงหลังรับประทานยา และพบว่าแคปซูลขิง มีข้อดีที่เหนือกว่ายาแผนปัจจุบัน คือ ไม่พบอาการข้างเคียงจากการรับประทานยา ซึ่งการที่ขิงสามารถบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้นั้น น่าจะมาจากการที่ขิงมีฤทธิ์ในการลดกระบวนการอักเสบ ลดอาการปวดในร่างกาย ลดการสร้างสารพรอสตาแกลนดิน (prostaglandins) ที่ทำให้ปวดและอักเสบนั่นเอง

อีกทั้งความเผ็ดร้อนของขิงมีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้โคเลสเตอรอล หรือไขมันตัวร้ายแข็งตัว จึงมีส่วนช่วยป้องกันผลเสียที่อาจเกิดขึ้นกับระบบโลหิตภายในร่างกาย ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคหัวใจและโรคหลอดเลือด

 

เคล็ดลับการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ คือการรู้จักคุณค่าของส่วนประกอบในแต่ละเมนู

ซึ่งการนำขิงมาเป็นวัตถุดิบหลัก มีส่วนช่วยให้ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

หลักการ กินอย่างฉลาด เพิ่มคุณประโยชน์ให้ร่างกายมากกว่าเดิม เพิ่มเติมคือการมีสุขภาพดี

อ่านประโยชน์ขิงเพิ่มเติมได้ที่ https://www.liveandfit.com/th/เคล็ดลับสุขภาพ/ประโยชน์ของขิง-ดีจริงจนต้องบอกต่อ.html
บทความที่น่าสนใจ
see more