สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ
หรือ
หากคุณยังไม่ได้เป็นสมาชิกกับเรา !
การดำเนินการต่อถือว่าคุณยอมรับ
ข้อกำหนดและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว
เราอาจส่งข่าวสารให้ท่าน ท่านสามารถปิดการรับข่าวสาร
ได้โดยเปลี่ยนการตั้งค่าในบัญชีของท่าน
เราจะไม่ส่งข่าวสารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่าน
สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ
หากคุณยังไม่ได้เป็นสมาชิกกับเรา !
หรือเข้าสู่ระบบด้วย
หรือ
สั่งซื้อทันทีโดยไม่สมัครสมาชิก
การดำเนินการต่อถือว่าคุณยอมรับ
ข้อกำหนดและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว
เราอาจส่งข่าวสารให้ท่าน ท่านสามารถปิดการรับข่าวสาร
ได้โดยเปลี่ยนการตั้งค่าในบัญชีของท่าน
เราจะไม่ส่งข่าวสารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่าน
ตะกร้าสินค้า
รายการสินค้าที่สั่งซื้อ
ยังไม่มีคำสั่งซื้อ
แนะนำสำหรับคุณ
PRODUCTS
CUSTOMER SERVICE
ABOUT US
PROMOTION
REWARDS
HELPING
น้ำขิงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การทำ IF
น้ำขิงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การทำ IF

สายเฮลตี้รู้จัก IF (Intermittent Fasting) คือการกำหนดช่วงเวลาในการอดอาหารและกำหนดช่วงเวลาในการกินอาหาร โดยรูปแบบของการทำ IF นั้นมีหลากหลาย แต่ที่นิยมทำกันมากได้แก่ สูตร IF 16/8 (Lean Gains) คือการกินอาหารในช่วงเวลา 8 ชั่วโมง และอดอาหารในช่วงเวลา 16 ชั่วโมง ซึ่งเป็นสูตรที่แนะนำสำหรับผู้ที่เริ่มทำ IF เพราะทำได้ง่ายกว่าสูตรอื่นและสามารถทำได้ต่อเนื่อง ไม่กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันมากเกินไป

ในช่วงเวลา IF ที่ต้องอดอาหาร ร่างกายจะลดการหลั่งฮอร์โมนอินซูลินลง ส่งผลให้ระบบการเปลี่ยนน้ำตาลในเลือดไปเป็นไขมันลดลง การกักเก็บไขมันใต้ผิวหนังและน้ำหนักก็ลดลง และช่วงที่ระดับอินซูลินลดลงนั้น ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) และนอร์อีพิเนฟริน (Norepinephrine) เพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งฮอร์โมนดังกล่าวจะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันและเพิ่มการเผาผลาญพลังงานให้สูงขึ้น โดยไม่ทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลงเหมือนการอดอาหารอย่างต่อเนื่องนั่นเอง [1]

ในระหว่างการทำ IF คุณสามารถดื่มเครื่องดื่มที่มีคาร์โบไฮเดรต หรือมีแคลอรี่ได้เพียงเล็กน้อยหรือไม่มีแคลอรี่เลยยิ่งดีมาก ซึ่งเครื่องดื่มต่าง ๆ รวมไปถึงอาหารเสริมที่คุณสามารถกินได้ขณะอดอาหารในช่วงทำ IF ก็จะมีพวกน้ำมะนาว, น้ำมันมะพร้าว, อาหารที่มีเส้นไฟเบอร์สูงและมีคาร์โบไฮเดรตต่ำ, กาแฟดำ, หญ้าหวาน, วิตามินและแร่ธาตุเสริม, น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์, ชาสมุนไพรต่าง ๆ โดยเฉพาะน้ำขิงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การทำ IF [2] เพราะสารสำคัญในขิงมีส่วนทำให้…
  • ลดความอยากอาหารในแต่ละวันให้น้อยลง จึงไม่ค่อยอยากกินจุบจิบและกินได้น้อยลงด้วย ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ที่กำลังทำ IF
  • ขิง ช่วยเพิ่มพลังงานความร้อนในขณะที่ระบบย่อยอาหารกำลังดูดซึมและย่อยอาหาร (เพิ่มขึ้น 22.3 – 64.1 กิโลแคลอรี่) โดยสารสำคัญในขิงคือ Thermogenic ซึ่งเป็นสารที่ทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น สิ่งที่จะตามมาคือ ช่วยเพิ่มเมทาบอลิซึมเพื่อเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น ทำให้น้ำหนักลดลงโดยการเพิ่มออกซิเดชันของไขมัน และไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำ IF เท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการสูญเสียไขมันแทนที่จะเป็นเนื้อเยื่อไร้ไขมัน และปรับปรุงความไวของอินซูลิน การลดน้ำหนักอาจช้าแต่ยั่งยืนกว่า [3]
  • ขิง มีส่วนช่วยในการรักษาระดับของอินซูลิน โดยสารสำคัญในขิงส่งผลโดยตรงต่อการทำงานของฮอร์โมนคอร์ติซอล [4] ซึ่งฮอร์โมนคอร์ติซอลนี้มีหน้าที่สำคัญต่าง ๆ เช่นรักษาระดับการเผาผลาญกลูโคสให้เหมาะสม ควบคุมความดันโลหิต รักษาระดับของอินซูลินในเลือด ทำให้ภูมิต้านทานต่าง ๆ ในร่างกายทำงานเป็นปกติ หรือตอบสนองต่อสภาวะเครียด เมื่อเกิดอาการเครียด ร่างกายจะหลั่งคอร์ติซอลออกมามากกว่าปกติ ซึ่งจะมีการเพิ่มของการไหลเวียนของกลูโคส โปรตีน และไขมันในกระแสเลือด อันเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ร่างกายบริโภคไขมันมากขึ้น

คุณสามารถดื่มน้ำขิงไม่มีน้ำตาลได้ในช่วงที่กำลังทำ IF ตราบใดที่คุณไม่ผสมขิงกับคาร์โบไฮเดรต ไขมัน หรือโปรตีน และน้ำขิงจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ IF ให้กับคุณ และการดื่มน้ำขิงยังทำให้ร่างกายได้รับคุณประโยชน์อื่น ๆ ที่ดีต่อสุขภาพมากมาย ซึ่งเป็นคุณค่าที่ดีในการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้ที่กำลังทำ IF อีกด้วย

โดยประโยชน์ของขิงในการส่งเสริมสุขภาพที่ดีล้วนมาจากไฟโตเคมีคอลที่เข้มข้น เนื่องจากขิงมีไฟโตนิวเทรียนท์ 114 ชนิด ที่มีคุณสมบัติในการมีส่วนช่วยต้านการอักเสบ ต้านมะเร็ง ต้านอาการคลื่นไส้ ต้านเบาหวาน ต้านอนุมูลอิสระและลดความดันโลหิต และยังมีสารสำคัญอื่น ๆ ได้แก่ ซิงเจอโรน โชกาออล วิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น วิตามินซี แมกนีเซียม และโพแทสเซียม อีกทั้งขิงมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำแต่มีเส้นใยไฟเบอร์สูง ทำให้ขิงเป็นตัวเลือกที่ดีของผู้ที่กำลังทำ IF นั่นเอง [2]
 

คุณประโยชน์อันทรงพลัง 7 ประการของขิง ที่ต้องควรมีขิงติดบ้านไว้สำหรับผู้ทำมีแผนจะทำ IF [2]

ขิงมีส่วนช่วยลดการอักเสบ
  • ขิง ได้รับการการันตีจากหลายงานวิจัยว่ามีคุณสมบัติต้านการอักเสบและอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคภัย เช่น ผู้ที่เป็นโรคข้ออักเสบและโรคอักเสบอื่น ๆ

ขิงดีต่อระบบย่อยอาหาร
  • ขิง มีส่วนช่วยบรรเทาอาการที่เกิดจากอาหารไม่ย่อยได้ เช่น แก๊สในท้อง ท้องอืด กรดไหลย้อน และแสบร้อนกลางอก นอกจากนี้ยังบรรเทาอาการตะคริวในทางเดินอาหาร [5] และช่วยให้การย่อยอาหารเป็นปกติ
  • ขิงมีฤทธิ์ขับลมที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งหมายความว่า ขิงมีส่วนช่วยลดแรงกดดันต่อกล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารส่วนล่าง (วงแหวนของกล้ามเนื้อที่เปิดและปิดเพื่อให้อาหารเข้าสู่กระเพาะอาหาร)

นอกจากนี้ ขิงยังมีส่วนช่วยช่วยกระตุ้นการทำงานของตับ โดยส่งเสริมการปล่อยน้ำดีออกจากตับโดยตรง แทนที่จะปล่อยจากถุงน้ำดี ช่วยให้ถุงน้ำดีมีคุณภาพในการเก็บน้ำดีที่สะสมไว้ เมื่อน้ำดีมีความเข้มข้น ระบบย่อยอาหารจะดีขึ้นและลดอาการไม่พึงประสงค์ในทางเดินอาหาร เช่น มีแก๊สในช่องท้องและท้องอืด

ขิงมีส่วนช่วยควบคุมระดับของอินซูลินและน้ำตาลในเลือด
  • สารสำคัญในขิงมีส่วนช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและควบคุมระดับของอินซูลิน การกินขิง 2 กรัมต่อวัน มีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมากในช่วงทำ IF เพราะการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตสูงเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินได้ ทุกครั้งที่คุณบริโภคคาร์โบไฮเดรต ระดับของอินซูลินจะพุ่งสูงขึ้น เมื่อระยะเวลาผ่านไป ร่างกายของคุณจะต้านทานต่อโมเลกุลของอินซูลิน ซึ่งทำให้น้ำตาลในเลือดของคุณเพิ่มขึ้นถึงระดับที่เป็นอันตรายได้

ขิงมีส่วนช่วยส่งเสริมการลดน้ำหนักได้ดี
  • สารสำคัญในขิงอย่าง ซิงเจอโรน และ โชกาออล มีส่วนช่วยส่งเสริมการลดน้ำหนักได้ เพราะสารเหล่านี้ ทำงานร่วมกับกระบวนการเผาผลาญไขมันและกักเก็บไขมันของร่างกายเพื่อช่วยให้ลดน้ำหนักได้ เช่น ลดความอยากอาหาร, ควบคุมการลดระดับของอินซูลิน, ลดน้ำตาลในเลือด, ดัชนีมวลกายลดลง, เพิ่มความร้อนในการเผาผลาญแคลอรี่และไขมัน

ขิงเสริมสร้างระบบการทำงานของภูมิคุ้มกัน
  • ด้วยคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระของขิง จึงมีส่วนช่วยใหคุณมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดี รวมไปถึงมีส่วนช่วยปกป้องระบบทางเดินหายใจ ป้องกันโรคเรื้อรัง มีส่วนช่วยให้คนไข้ฟื้นตัวจากการเจ็บป่วยเฉียบพลัน และมีส่วนช่วยป้องกันโรคไข้หวัดได้

ขิงบรรเทาอาการปวดประจำเดือน
  • เพราะอาการปวดประจำเดือนเชื่อมโยงกับการอักเสบ ทำให้ขิงที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและบรรเทาอาการปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้ โดนการกินขิง 200 มก. วันละ 4 ครั้ง มีส่วนช่วยบรรเทาปวดประจำเดือนเทียบเท่า Novafen (อะเซตามิโนเฟน ไอบูโพรเฟน และคาเฟอีน)

ขิงมีส่วนช่วยป้องกันโรคมะเร็ง
  • ผลการศึกษาพบว่าสารสำคัญของขิงอย่าง โชกาออล และ พาราโดล อาจมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
ที่มา:
[1] IF ให้ถูกวิธี ลดไซส์ ลดโรค
[2] น้ำขิงเพิ่มประสิทธิภาพการทำ IF
[3] เรื่องน่ารู้ของขิง กับการควบคุมน้ำหนัก / HOTTA Sharing
[4] คอร์ติซอล ฮอร์โมนความเครียด ที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่ทำให้เครียด!
[5] กระเพาะลำไส้เป็นตะคริว
แชทผ่านไลน์ @Liveandfit