0
| เคล็ดลับสุขภาพ

5 สุดยอดสมุนไพร เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

  Add Friend
อัพเดตโปรโมชั่นและข่าวสารดีๆ ผ่านทาง LINE LIVE & FIT
ID : @Liveandfit
 3 เม.ย. 2563
 3688 ครั้ง
 | 
แชร์ 0 ครั้ง



กินอาหารให้เป็นยา อย่ากินยาเป็นอาหาร เป็นการดูแลสุขภาพด้วยอาหารที่เรากินทุกวัน เพียงแต่เราต้องรู้ว่า อะไรที่เรากินแล้วให้คุณประโยชน์ที่จำเป็นแก่ร่างกายมากกว่าให้โทษ และควรกินในปริมาณที่พอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป กินเพื่อสุขภาพกายใจที่ดีของเรา เพราะวันไหนที่ป่วยขึ้นมาคงได้กินยาเป็นอาหารแทนแน่ ๆ
เมื่อรู้แบบนี้แล้ว Live & Fit ขอแนะนำให้รู้จัก 5 สมุนไพร ที่กินแล้วดีมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ 

1. ขิง 
มีประโยชน์สำหรับทุกเพศทุกวัย และถือว่าเป็นเครื่องเทศอันดับหนึ่งของระบบอายุรเวท โดยขิงมีฤทธิ์ช่วยให้โพรงจมูกโล่งและป้องกันอาการหวัดคัดจมูก สามารถนำขิงมาประกอบอาหารหรือชงน้ำขิงดื่มแบบไม่ยุ่งยากแต่ประโยชน์เยอะ เพราะขิงอุดมไปด้วย จินเจอร์รอล และ วิตามินซี ที่มีส่วนสำคัญในการช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย เนื่องจากมีการวิเคราะห์สารสำคัญใน ขิง พบว่าสารจินเจอร์รอลและวิตามินซีมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง

จินเจอร์รอล เป็นสารสำคัญชนิดหนึ่งในขิงที่มีมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงและทรงพลัง ที่มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และมีส่วนช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต  เสริมสร้างให้ร่างกายห่างไกลจากโรคภูมิแพ้ต่าง ๆ ช่วยปกป้องคุณจากไวรัสหลากหลายชนิดที่จ้องทำร้ายเราในยามที่ร่างกายอ่อนแอ

วิตามินซี เชื่อแน่ว่าทุกคนรู้จักและทราบถึงประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะการมีส่วนช่วยในการทำหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน หรือเรียกได้ว่าช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานได้ดี และยังมีคุณประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ มีส่วนช่วยป้องกันโรคหวัด, ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง, มีส่วนช่วยในกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระและปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ, มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนเพื่อการทำงานตามปกติของกระดูกและกระดูกอ่อน, มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนเพื่อการทำงานตามปกติของเหงือกและฟัน, มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนเพื่อการทำงานตามปกติของผิวหนัง, มีส่วนช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานจากเมตาบอลิซึมตามปกติ, มีส่วนช่วยในการทำงานตามปกติของระบบประสาท, มีส่วนช่วยในการคืนสภาพของรีดิวซ์วิตามินอี และเพิ่มการดูดซึมเหล็ก

จึงมีการนำขิงมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในภาวะที่ต้องการเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย เพราะสารจินเจอร์รอลและวิตามินซีที่ทรงพลังของขิงมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายนั่นเอง



2. โสม
จัดว่าเป็นสมุนไพรที่ขนานนามกันให้เป็น ราชาของสมุนไพร หรือสุดยอดสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ด้วยคุณประโยชน์มากมายของโสมเพียงแค่ปลายรากเล็ก ๆ ก็มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายในการช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ช่วยต่อต้านสารพิษต่าง ๆ จากสภาพแวดล้อมได้ดี ช่วยกระตุ้นเซลล์ให้สร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยต้านการติดเชื้อไวรัส ช่วยเพิ่มการผลิตฮอร์โมนไทมัส ซึ่งสำคัญต่อการทำหน้าที่ของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายสามารถต้านทานต่อยา แอลกอฮอล์ เคมีบำบัด และสารพิษต่าง ๆ ได้มากขึ้น

นอกจากนี้ โสม ยังเป็นยาครอบจักรวาลที่มีส่วนช่วยเพิ่มระดับพลังงาน บรรเทาความอ่อนเพลียเมื่อยล้าของร่างกาย ทำให้ร่างกายมีการปลดปล่อยพลังงานมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยทำให้ผนังเซลล์ดูดซึมออกซิเจนเพิ่มขึ้น มีผลทำให้ขบวนการเผาผลาญในร่างกายมีมากขึ้น ร่างกายสามารถปลดปล่อยพลังงานออกมาได้มาก จึงทำให้เหน็ดเหนื่อยช้า มีความทนทานต่อการทำงานหนักมากขึ้น เพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ที่ดื่มโสมนั่นเอง


3. ถั่งเฉ้า
เป็นยาบำรุงร่างกายชั้นยอด มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เหมาะสำหรับผู้ที่รักและดูแลสุขภาพ เพราะถั่งเฉ้ามีส่วนช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน,บรรเทาอาการภูมิแพ้, บำรุงไต, บรรเทาอาการอ่อนเพลีย, บรรเทาอาการไอ, บรรเทาอาการเจ็บหน้าอก, บรรเทาอาการหอบหืด, ละลายเสมหะ, บำรุงปอด, ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด, ช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือด, ใช้บำรุงผู้ป่วยที่เพิ่งฟื้นไข้, ชะลอความชรา, ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของเลือดให้คล่องตัว ช่วยขยายหลอดเลือด และเพิ่มปริมาณของเลือดที่เข้าไปหล่อเลี้ยงปอดและหัวใจ เพิ่มระดับออกซิเจนและช่วยบำรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของตับและไตให้ดีขึ้น บรรเทาอาการหย่อนและเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ และเห็ดถั่งเฉ้ายังเชื่อว่าช่วยรักษาโรคมะเร็งได้อีกด้วย จึงมีความต้องการในท้องตลาดสูง และมีราคาแพง




4. เห็ดชิตาเกะ หรือเห็ดหอม
เป็นเห็ดชนิดหนึ่งที่นิยมรับประทานกัน และมีผลการศึกษาที่พบว่า เห็ดชิตาเกะ หรือเห็ดหอม เป็นเห็ดที่มีแคลอรี่ต่ำและเป็นแหล่งไฟเบอร์ชั้นดีที่อุดมไปด้วยเกลือแร่ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 12 วิตามินดี และกรดแพนโททีนิค (Pantothenic) นอกจากนี้ยังมีโปรตีน เอนไซม์ กรดอะมิโนที่จำเป็นอีก 8 ชนิด และสารเลนทิแนน (lentinan) ที่มีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพในการต่อสู้ยับยั้งหรือป้องกันร่างกายจากสิ่งแปลกปลอมที่ทำให้เกิดการติดเชื้อและช่วยฟื้นฟูร่างกาย นับว่าเป็นเห็ดที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก ชาวจีนและญี่ปุ่นเชื่อว่าเห็ดชิตาเกะ หรือเห็ดหอม เป็นเห็ดบำรุงกำลัง เพิ่มการไหลเวียนโลหิต บำรุงกระดูก และเป็นยาอายุวัฒนะ



5. เห็ดหลินจือ
เป็นสมุนไพรจีนที่ใช้เพื่อรักษาทางการแพทย์มานานกว่า 4,000 ปี และมีสรรพคุณที่หลากหลาย จึงเชื่อว่าการกินเห็ดหลินจือสามารถทำให้อายุยืนยาวอีกด้วย โดยคุณค่าทางโภชนาการของเห็ดหลินจือ (100 กรัม) มีพลังงาน 22 แคลอรี่, คาร์โบไฮเดรต 3.3 กรัม, โปรตีน 3.1 กรัม, ไขมัน 0.3 กรัม, ใยอาหาร 1 กรัม, น้ำตาล 2 กรัม, โพแทสเซียม 432 มิลลิกรัม, แคลเซียม 1.88 มิลลิกรัม, แมกนีเซียม 7.95 มิลลิกรัม, โซเดียม 2.82 มิลลิกรัม, ฟอสฟอรัส 225 มิลลิกรัม, ซัลเฟอร์ 129 มิลลิกรัม, ทองแดง 26 มิลลิกรัม, แมงกานีส 22 มิลลิกรัม, สังกะสี 0.7 กรัม ในทางการแพทย์แผนปัจจุบัน มีการนำคุณประโยชน์ของเห็ดหลินจือที่มีส่วนช่วยเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย ไปใช้ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้ติดเชื้อ HIV และช่วยลดอาการข้างเคียงหรือแก้พิษจากการทำคีโม เป็นต้น