0
| เคล็ดลับสุขภาพ

รู้หรือไม่ ? “อาการหนาวใน” สัญญาณเตือนความผิดปกติในผู้หญิง?

  Add Friend
อัพเดตโปรโมชั่นและข่าวสารดีๆ ผ่านทาง LINE LIVE & FIT
ID : @Liveandfit
 22 ต.ค. 2561
 60501 ครั้ง
 | 
แชร์ 71 ครั้ง
อาการหนาวใน

 

เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว! แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่กี่วัน หรือ หนาวเป็นบางวันสลับกับอากาศร้อน แต่สำหรับคุณผู้หญิงบางคนอาจต้องผจญกับ “อาการหนาวใน” โรคชนิดหนึ่งที่พบมากในผู้หญิงหลังคลอดที่ไม่ได้อยู่ไฟ ผู้สูงอายุที่กำลังหมดประจำเดือน หรือหมดประจำเดือนแล้ว และผู้หญิงที่ประจำเดือนมาผิดปกติ ฯลฯ

อาการหนาวในเบื้องต้น
บางคนบอกว่าหนาวจนเข้ากระดูก แค่ฝนมืดครึ้มมาก็หนาวแล้ว คือมีอาการหนาวสั่นสะท้านเข้ากระดูก มือเท้าเย็น ปากเขียว มือเขียว เหมือนเลือดไหลเวียนไม่ดี และเมื่อมีอาการหนาวในเป็นประจำจะทำให้เกิดอาการปวดหลังชาๆ ขัดข้อสะโพก มีจ้ำเขียวตามร่างกายได้ง่าย เป็นไข้ทับระดูทุกครั้งที่มีประจำเดือน มีอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ เป็นตะคริว

ซึ่งอาการหนาวในนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด แต่อาจจะต้องเช็กให้ดีก่อนว่า อาการหนาวในที่คุณรู้สึกนี้ หนาวเพราะป่วยไข้, อากาศเย็น, หนาวเพราะลมแรงจากเมฆฝน หรือหนาวที่มาพร้อมกับอาการผิดปกติบางอย่าง เช่น  

1. ผอมบางต่ำกว่ามาตรฐาน 6. พักผ่อนไม่เพียงพอ
2. ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ 7. ดื่มน้ำน้อยเกินไป
3. ขาดธาตุเหล็ก 8. ขาดวิตามินบี 12
4. ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี 9. โรคเบาหวาน
5. โรคเรย์นอยด์ 10. กล้ามเนื้ออ่อนแอเกินไป

ซึ่งจะมีอาการหนาวในเข้ามาประกอบด้วยเสมอ

 

4 ขั้นตอน แก้อาการหนาวใน เบื้องต้น

  1. การปรับสมดุลธาตุด้วยสมุนไพรจำพวก เหง้าขิง รากเจตมูลเพลิง ดีปลี รากช้าพลู และเถาสะค้าน ไพล ขมิ้นอ้อย มีทั้งแบบต้มดื่มหรืออาบ ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์แผนโบราณ
  2. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกกินไขมันดีจากพืช วิตามินบี12 ก็จำเป็น และหากมีภาวะเลือดจาง ต้องเน้นอาหารประเภทธาตุเหล็กสูง เลือกกินผลไม้ที่มีทั้งความชุ่มเย็นและความเผ็ดร้อน หรือเลือกกินสมุนไพร เช่น บัวบก หรือ พริกไทย เป็นต้น
  3. การใช้ ยาสตรีที่มีส่วนผสมของว่านชักมดลูก ตังกุย เอี๊ยะบ่อเช่า เพื่อช่วยบำรุงโลหิต แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ช่วยขับเลือดเสีย หรือประจำเดือน ออกจากร่างกาย  อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการฟอกเลือด บำรุงเลือดเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง อีกด้วย
  4. หากเกิดอาการหนาวสั่นที่ผิดปกติ หรือเข้าข่ายอาการของโรคร้าย ควรเข้าพบแพทย์

หากมีคำถามเพิ่มเติมหรือข้อสงสัยอื่น ๆ เรื่องสุขภาพ สามารถปรึกษาได้ที่  Line ID : @liveandfit หรือคลิก >> https://line.me/R/ti/p/%40liveandfit

บทความที่น่าสนใจ
see more