0
| เคล็ดลับสุขภาพ

น้ำขิงเสาวรส

  Add Friend
อัพเดตโปรโมชั่นและข่าวสารดีๆ ผ่านทาง LINE LIVE & FIT
ID : @Liveandfit
 5 ธ.ค. 2562
 4180 ครั้ง
 | 
แชร์ 1 ครั้ง

Live & Fit Healthy Recipes “เมนูนี้ไม่มีน้ำตาล (No Sugar Added)”


น้ำขิงเสาวรส

ส่วนผสม

ฮอทต้า ขิง100%   1 ซอง (เพิ่ม-ลด ตามชอบ)

เนื้อเสาวรส   1 ช้อนโต๊ะ

ฟิตเน่ สวีท สตีเวีย   2 ช้อนชา (เพิ่ม-ลด ตามชอบ)

น้ำอุ่น   1 ถ้วยตวง

น้ำแข็งป่น (ตามชอบ)

ใบมิ้นท์ หรือ ใบสะระแหน่ สำหรับตกแต่ง

หากชอบรสเปรี้ยวละมุน แนะนำให้เพิ่ม มะนาวไลม์สัก   1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1.ฉีกซอง ฮอทต้า ขิง 100% เทลงผสมในน้ำอุ่น ตามด้วย ฟิตเน่ สวีท สตีเวีย คนให้เข้ากัน

2.ตักเนื้อเสาวรสใส่ลงไป คนเบา ๆ (ชิมรส) หากชอบรสเปรี้ยวละมุน แนะนำให้เพิ่มมะนาวไลม์ 1 ช้อนโต๊ะ

3.เทใส่แก้วใบสวยพร้อมด้วยน้ำแข็งป่น จัดวางใบสะระแหน่ หรือเปปเปอร์มินต์เพื่อความสวยงาม

แก้วนี้ทีเด็ด เปรี้ยวสะใจ ได้คุณค่าของขิงวิตามินซี สูง เหมาะสำหรับเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพตลอดเทศกาลปีใหม่นี้นะคะ


enlightened รู้ไหมว่า...

ฟิตเน่ สวีท สตีเวีย หรือ ใบหญ้าหวานสกัด

เป็นวัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาลที่ผลิตจากสมุนไพรธรรมชาติ 100% ที่มีความพิเศษ โดยในส่วนของใบหญ้าหวานจะมีความหวานมากกว่าน้ำตาลทราย 15 เท่า และที่สำคัญสารสกัดจากใบหญ้าหวาน (Stevioside) จะให้รสหวานกว่าน้ำตาลทรายถึง 300 เท่า แต่ไม่ให้พลังงาน (0 แคลอรี่) ในขณะที่น้ำตาลทราย 1 ช้อนชาให้พลังงาน 16 แคลอรี่ อีกทั้งยังมีข้อดีที่ใบหญ้าหวานสกัดเหนือกว่าน้ำตาลทรายหลายอย่าง เช่น ทนต่อความร้อน, ไม่ทำให้อาหารเกิดสีน้ำตาลเมื่อผ่านความร้อนสูง, สามารถนำมาปรุงอาหารบนเตาร้อน ๆ ได้, นิยมนำมาปรุงเพิ่มรสชาติความหวานให้กับเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ และไม่ถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ จึงไม่ทำให้อาหารเกิดการบูดเน่า ประการสำคัญที่สุด คือไม่ถูกดูดซึมในระบบการย่อย จึงไม่ให้พลังงาน รับประทานเท่าไรก็ไม่ทำให้อ้วน และไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเปลี่ยนแปลงสูงขึ้น จึงเป็นความหวานที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ควบคุมน้ำหนัก และผู้รักสุขภาพทุกคน

นอกจากนี้ใบหญ้าหวานยังมีส่วนช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ช่วยเพิ่มพลัง และช่วยสมานแผลทั้งภายในภายนอก และที่สำคัญ ใบหญ้าหวานมีความปลอดภัยต่อร่างกาย เพราะเป็นความหวานที่ได้จากสมุนไพรธรรมชาติ 100%

เสาวรส (Passion Fruit) หรือ กะทกรกฝรั่ง

เป็นผลไม้ที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เด่นชัด รสชาติเปรี้ยวจัด บางสายพันธุ์มีรสออกหวาน และมีเมล็ดจำนวนมาก อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด จึงให้คุณประโยชน์กับสุขภาพร่างกายในหลากหลายด้าน นิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ โดย เสาวรส 100 กรัม ให้คุณค่าทางโภชนาการดังนี้

พลังงาน 97 กิโลแคลอรี่, คาร์โบไฮเดรต 23.38 กรัม, น้ำตาล 11.2 กรัม, เส้นใยอาหาร 10.4 กรัม, ไขมัน 0.7 กรัม, โปรตีน 2.2 กรัม, วิตามินเอ 64 ไมโครกรัม, เบตาแคโรทีน 734 ไมโครกรัม, วิตามินบี 2 0.13 มิลลิกรัม, วิตามินบี 3 1.5 มิลลิกรัม, วิตามินบี 6 0.1 มิลลิกรัม, วิตามินบี 9 14 ไมโครกรัม, โคลีน 7.6 มิลลิกรัม, วิตามินซี 30 มิลลิกรัม, วิตามินเค 0.7 ไมโครกรัม, ธาตุแคลเซียม 12 มิลลิกรัม, ธาตุเหล็ก 1.6 มิลลิกรัม, ธาตุแมกนีเซียม 29 มิลลิกรัม, ธาตุฟอสฟอรัส 68 มิลลิกรัม, โพแทสเซียม 348 มิลลิกรัม, ธาตุโซเดียม 28 มิลลิกรัม, ธาตุสังกะสี 0.1 มิลลิกรัม และเสาวรส ยังมีคุณประโยชน์ในด้านอื่น ๆ เช่น มีส่วนช่วยบำรุงสายตา, มีส่วนช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย, มีส่วนช่วยเสริมภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง, บำรุงหัวใจ, ช่วยลดน้ำหนัก ฯลฯ

ขิง

อุดมไปด้วยสาร จินเจอร์รอล, วิตามิน, ใยอาหาร และแร่ธาตุต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะขิงแก่สดอายุ 11 – 12 เดือน จะมีปริมาณสารจินเจอร์รอลมากที่สุด ซึ่งเป็นสารในกลุ่มฟีนอลที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ หรือเปรียบดั่งสมุนไพรรักษามะเร็ง นอกจากนี้ ประโยชน์ของขิง ยังสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ในร่างกายได้ อาทิ ขิงแก้หวัด เพราะ “จินเจอร์รอล” สารสำคัญในขิง มีส่วนช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต และกระตุ้นการทำงานของระบบป้องกันร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ในขณะเดียวกัน ปริมาณเหงื่อที่มากขึ้น ก็ช่วยขับพิษหรือไวรัสออกจากร่างกาย จึงมีส่วนช่วย ป้องกันไข้หวัดได้ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยบรรเทาอาการอื่น ๆ ที่อาจมาพร้อมกับไข้หวัด เช่น

ขิงแก้เจ็บคอ จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมของใครหลาย ๆ คน ที่เวลารู้สึกเจ็บคอมักชอบจิบน้ำขิง เนื่องจากขิงสามารถช่วยต้านการอักเสบ รวมทั้งสามารถช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ตัวการของอาการเจ็บคอได้อีกด้วย

ขิงแก้ไมเกรน โดยมีการศึกษาวิจัยล่าสุดในต่างประเทศ ทำการศึกษาวิจัยในเรื่องการใช้ขิงรักษาอาการปวดไมเกรน โดยทำการศึกษาวิจัยในผู้ป่วยไมเกรน 100 ราย ในแผนกประสาทวิทยา ของโรงพยาบาลในประเทศอิหร่าน ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่รับประทานขิง อาการปวดไมเกรนลดลงดีเทียบเท่ากับกลุ่มที่รับประทานยาแก้ปวดแผนปัจจุบัน คือ สามารถลดอาการปวดไมเกรนได้ถึง 60% ภายในเวลา 2 ชั่วโมงหลังรับประทานยา และพบว่าแคปซูลขิง มีข้อดีที่เหนือกว่ายาแผนปัจจุบัน คือ ไม่พบอาการข้างเคียงจากการรับประทานยา ซึ่งการที่ขิงสามารถบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้นั้น น่าจะมาจากการที่ขิงมีฤทธิ์ในการลดกระบวนการอักเสบ ลดอาการปวดในร่างกาย ลดการสร้างสารพรอสตาแกลนดิน (prostaglandins) ที่ทำให้ปวดและอักเสบนั่นเอง

อีกทั้งความเผ็ดร้อนของขิงมีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้โคเลสเตอรอล หรือไขมันตัวร้ายแข็งตัว จึงมีส่วนช่วยป้องกันผลเสียที่อาจเกิดขึ้นกับระบบโลหิตภายในร่างกาย ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคหัวใจและโรคหลอดเลือด

เคล็ดลับการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ คือการรู้จักคุณค่าของส่วนประกอบในแต่ละเมนู ซึ่งการนำขิงมาเป็นวัตถุดิบหลัก มีส่วนช่วยให้ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

หลักการ กินอย่างฉลาด เพิ่มคุณประโยชน์ให้ร่างกายมากกว่าเดิม เพิ่มเติมคือการมีสุขภาพดี

อ่านประโยชน์ขิงเพิ่มเติมได้ที่ https://www.liveandfit.com/th/เคล็ดลับสุขภาพ/ประโยชน์ของขิง-ดีจริงจนต้องบอกต่อ.html

บทความที่น่าสนใจ
see more