0
| เคล็ดลับสุขภาพ

คุณประโยชน์และสรรพคุณของขิง ดีจริงจนต้องบอกต่อ

  Add Friend
อัพเดตโปรโมชั่นและข่าวสารดีๆ ผ่านทาง LINE LIVE & FIT
ID : @Liveandfit
 12 มี.ค. 2563
 24332 ครั้ง
 | 
แชร์ 26 ครั้ง


ถึงแม้องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ยกระดับการเตือนภัยความเสี่ยงของโรคระบาดครั้งใหญ่ (pandemic) อย่างเป็นทางการ แต่พวกเราก็อย่าถึงขั้น Panic เลยนะคะ ทางที่ดีที่สุด เราต้องรู้จักป้องกันตัวเอง เสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรงเพื่อพร้อมรับมือกับทุกโรคภัยไข้เจ็บที่จะมาเยี่ยมเยือน


"มาดื่มน้ำขิงเสริมภูมิคุ้มกัน สร้างเกราะป้องกันต้านโรค" กันนะคะ

ขิง มีสารสำคัญคือ จินเจอร์รอล ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งในกลุ่มฟีนอล และสรรพคุณของขิง มีส่วนสำคัญในการช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย เนื่องจากมีการวิเคราะห์สารสำคัญใน ขิง พบว่าสรรพคุณของขิง มีสารจินเจอร์รอลมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง จึงมีการนำขิงมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในภาวะที่ต้องการต้านอนุมูลอิสระมากมาย เพราะสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) ที่ทรงพลังของขิงมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายนั่นเอง เพราะภูมิคุ้มกัน (immune) เปรียบเสมือนเกราะป้องกันต้านโรค ซึ่งความจริงแล้วเราอยู่กับเชื้อโรครอบตัวตลอดเวลา ในแต่ละวันอาจสัมผัสกับเชื้อโรคมากมาย แต่ทำไมเราถึงไม่เจ็บป่วย หรือนาน ๆ จะเจ็บป่วยสักที ก็เพราะร่างกายเรามีระบบภูมิคุ้มกันเซลล์เม็ดเลือดขาวที่เปรียบเสมือนเกราะป้องกันเชื้อโรค ถ้าเกราะป้องกันแข็งแรง เชื้อโรคก็ยากที่จะเข้ามา แต่หากช่วงใดร่างกายอ่อนแอก็จะส่งผลไปที่ระบบภูมิคุ้มกันด้วย เป็นเหตุให้บางครั้งเราก็ป่วยง่ายป่วยบ่อย และเสี่ยงต่อการเป็นโรค ภูมิแพ้ ไวรัส โรคมะเร็ง โรคร้ายแรงต่าง ๆ ที่กำลังก่อตัวลุกลามจนเกิดเจ็บไข้ป่วยขึ้นมาได้



นอกจากจินเจอร์รอลในขิงจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายเราแล้ว คุณประโยชน์หรือสรรพคุณของขิง ที่เป็นที่ยอมรับทั่วไป ว่ายังสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ในร่างกายได้ อาทิ

1. ขิงมีส่วนช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ขิงส่งผลดีต่อการสร้างสมดุลธาตุในร่างกาย ดังที่แพทย์จีนมักจะใช้ประโยชน์จากขิง ในการปรับสมดุลร่างกายอยู่เสมอ โดยแนะนำให้ดื่มน้ำขิงร้อน ๆ ในภาวะที่ร่างกายมีความเย็น หนาวง่าย ทนต่อความเย็นได้น้อย และการย่อยอาหารไม่ดี หรือที่เรียกว่าหยางพร่อง โดยสรรพคุณของน้ำขิงจะช่วยขับพิษในร่างกายออกมาทางเหงื่อ

2. ขิงมีส่วนช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายจากภายใน โดยในขิงจะมีน้ำมันหอมระเหย ประกอบด้วย Gingerol และ Shogaol ที่จะช่วยขับเหงื่อและทำให้ร่างกายอบอุ่น ทั้งยังช่วยบรรเทาพิษไข้ เวลาหนาว ๆ หากใครได้น้ำขิงร้อน ๆ มาจิบสักแก้วก็จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นได้มาก

3. ขิงมีส่วนช่วยขับพิษออกจากร่างกาย ดื่มน้ำขิงก่อนนอนจะช่วยให้หลับสบาย ผลการศึกษาของนักวิจัยชาวญี่ปุ่นที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Pharmaceutical Society of Japan ในปี 2008 พบว่า สรรพคุณของน้ำขิงมีส่วนช่วยเพิ่มการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย ทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันได้มากกว่าปกติ นอกจากนี้น้ำขิงอุ่น ๆ ยังสามารถช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย ลดอาการท้องผูก รวมทั้งลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นสาเหตุของความเครียด อันเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ร่างกายบริโภคไขมันมากขึ้นจนทำให้น้ำหนักขึ้นได้อีกด้วย

4. ขิงมีส่วนช่วยป้องกันไข้หวัดได้ แก้ไอได้เป็นอย่างดี การดื่มน้ำขิงร้อนจะช่วยลดการสะสมของเชื้อไวรัสได้ดี โดยอาจจะชงดื่มผสมกับน้ำมะนาวและเกลือ จิบบ่อย ๆ ช่วยแก้ไอได้ดีทีเดียว และยังช่วยบรรเทาอาการหวัดคัดจมูก ไอน้ำหอมระเหยจากน้ำขิงช่วยให้หายใจสะดวกมากขึ้นในช่วงที่เป็นหวัดคัดจมูก  จากการทดลองน้ำขิงที่ได้จากการสกัดพบว่า น้ำขิงสามารถยับยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและพยาธิชนิดต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งสารจินเจอร์รอลในขิงยังมีอานุภาพมากพอจะลดโอกาสติดเชื้อต่าง ๆ ของร่างกายได้โดยเฉพาะหากเราดื่มน้ำขิงเป็นประจำทุกวัน สารจินเจอร์รอลจะต่อสู้กับเชื้อไวรัสโรคหวัดและอาการไข้ได้อย่างเต็มที่ เราก็จะมีสุขภาพที่ดีห่างไกลจากโรคหวัดได้ง่าย ๆ

5. ขิงมีส่วนช่วยรับมือกับโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ขิงมีสรรพคุณในการล้างทำความสะอาดสารพิษในปอด ช่วยลดการติดเชื้อที่ทางเดินหายใจ และขิงสามารถลดอาการอักเสบภายในร่างกาย เพราะขิงจะช่วยสกัดฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการต้านอาการอักเสบได้จึงช่วยต้านการอักเสบของปอด

6. ขิงมีส่วนช่วยบรรเทาเจ็บคอ ช่วยลดอาการอักเสบ  ขิงอุดมไปด้วยสารต้านการอักเสบ และสารต้านอนุมูลอิสระก็ค่อนข้างสูง นอกจากนี้ในขิงยังมีสารจินเจอร์รอล (Gingerol) ซึ่งมีฤทธิ์รุนแรงกว่าแอสไพริน และยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบภายในร่างกาย ดังนั้นหากดื่มน้ำขิงเป็นประจำ ก็จะช่วยป้องกันการอักเสบในร่างกายได้อีกทาง

7. ขิงมีส่วนช่วยแก้ไมเกรน บรรเทาอาการปวดไมเกรนได้ เพราะส่วนประกอบของขิง มีผลต้านการอักเสบ ส่งเสริมการไหลเวียนของระบบเลือด และจะไปช่วยยับยั้งฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการอักเสบ การดื่มน้ำขิงหรือขิงผงเป็นประจำอาการปวดไมเกรนจะบรรเทาลง ขิงสามารถใช้รักษาอาการปวดศีรษะได้ ทั้งชนิดปวดแบบสองข้าง และข้างเดียวหรือไมเกรน ผู้ที่มีอาการปวดศีรษะบ่อยๆ แนะนำให้ดื่มน้ำขิงเข้มข้นเป็นประจำ สารเคมีที่อยู่ในขิงจะสามารถปรับสารไอโคซานอยด์ (Eicosanoid) ทำให้อาการปวดศีรษะบรรเทาลง ซึ่งยังมีข้อมูลในการใช้ขิงเพื่อบรรเทาอาการปวดในร่างกาย  จึงถือได้ว่าขิงเป็นสมุนไพรอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ป่วยไมเกรน และหากใครชื่นชอบการดื่มน้ำขิงอยู่แล้ว ก็สามารถจิบน้ำขิงอุ่นๆ เวลาปวดไมเกรนได้เช่นกัน

8. ขิงมีส่วนช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ขับลม โดยให้ดื่มน้ำขิงก่อนนอนจะช่วยบรรเทาอาการได้ สารประกอบฟีโนลิกในขิงมีส่วนช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองในลำไส้ พร้อมทั้งยังมีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร นอกจากนี้ขิงยังมีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้อย่างอ่อน ส่งผลให้อาการท้องอืด แน่นท้อง และอาการท้องเฟ้อบรรเทาลงได้

9. ขิงมีส่วนช่วยเพิ่มน้ำนมแม่ มีสมุนไพรหลายชนิดที่ช่วยเพิ่มน้ำนมให้คุณแม่ได้ ขิงก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยขิงจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดได้อย่างดี ทำให้น้ำนมคุณแม่ไหลได้ดี ในทางโภชนาการขิงยังเป็นตัวเสริมธาตุเหล็ก ช่วยบำรุงเลือดของคุณแม่หลังตั้งครรภ์ ช่วยสร้างตัวเม็ดเลือดแดง ทำให้มีการนำพาออกซิเจนได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยประโยชน์ต่าง ๆ เช่น โปรตีน แคลเซียม และวิตามินต่าง ๆ ที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายคุณแม่หลังคลอดให้แข็งแรงขึ้นอีกด้วย

10. ขิงมีส่วนช่วยลดโคเลสเตอรอล คุณสมบัติของขิงซึ่งช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลนั้นได้มีการทดลองโดยให้ผู้ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงดื่มน้ำขิงวันละ 3 ครั้ง ผลลัพธ์ระบุว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ดื่มน้ำขิงพบว่า ขิงมีประสิทธิภาพช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งการใช้ขิงลดระดับโคเลสเตอรอลจะให้ผลดีจนสามารถนำมาใช้รักษาผู้ป่วยภาวะนี้ได้หรือไม่คงต้องรอการศึกษาในอนาคตที่ชัดเจนกันต่อไป

นี่แหละ คุณประโยชน์และสรรพคุณของขิง ดีจริงจนต้องบอกต่อ รวมไปถึงการรับประทานอาหาร เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ หรือการเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากขิงเป็นประจำ ก็สามารถตอบโจทย์การดูแลภูมิคุ้มกันร่างกายได้