LOGIN / REGISTER
OR
New Register
การดำเนินการต่อถือว่าคุณยอมรับ
Terms of Use and Privacy Policy
เราอาจส่งข่าวสารให้ท่าน ท่านสามารถปิดการรับข่าวสาร
ได้โดยเปลี่ยนการตั้งค่าในบัญชีของท่าน
เราจะไม่ส่งข่าวสารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่าน
LOGIN / REGISTER
New Register
Or Login By
OR
Order by Guest Account
การดำเนินการต่อถือว่าคุณยอมรับ
Terms of Use and Privacy Policy
เราอาจส่งข่าวสารให้ท่าน ท่านสามารถปิดการรับข่าวสาร
ได้โดยเปลี่ยนการตั้งค่าในบัญชีของท่าน
เราจะไม่ส่งข่าวสารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่าน
MY CART
Manage Item
ยังไม่มีคำสั่งซื้อ
You might also like
PRODUCTS
CUSTOMER SERVICE
ABOUT US
PROMOTION
REWARDS
HELPING
"ท้องผูกทุกวัน รูปร่างพังมากกว่าที่คิด" สาเหตุของการท้องผูกเกิดจากอะไร ?
"ท้องผูกทุกวัน รูปร่างพังมากกว่าที่คิด" สาเหตุของการท้องผูกเกิดจากอะไร ?

ท้องผูก อย่าคิดว่าเป็นเรื่องปกติ หากปล่อยให้ท้องผูกเป็นเวลานาน อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ต้องอยู่ในห้องน้ำนาน เกิดความเครียด ไม่สดชื่น หงุดหงิด อึดอัด ฯลฯ และอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายได้ เช่น อึดอัดจากการไม่ระบาย น้ำหนักตัวเพิ่ม “ยิ่งท้องผูกทุกวัน รูปร่างพังมากกว่าที่คิด” เพราะคนที่มีปัญหาระบบขับถ่ายไม่ปกตินั้น มักจะมีภาวะโรคอ้วนตามมาได้ง่าย เนื่องจากเกิดการคั่งค้างของเสียและไขมันสะสมภายในร่างกาย รวมไปถึงการเกิดกลิ่นตัวกลิ่นปาก เนื่องจากมีการขับของเสียออกมาทางลมหายใจและผิวหนัง ซึ่งการขับถ่ายเป็นวิธีที่ร่างกายใช้กำจัดสารพิษที่ตกค้างภายในร่างกาย ถ้าไม่ได้ขับถ่ายทุกวัน สารพิษเหล่านั้นจะถูกดูดกลับไปสะสมในร่างกาย ทั้งในกระแสเลือดและตามอวัยวะต่าง ๆ อาจส่งผลให้เกิดปัญหา ผิวพรรณไม่สดใส หมองคล้ำ และน่ากลัวที่สุดก็คือ “อาการท้องผูก” อาจเป็น สัญญาณเตือนของ “มะเร็งลำไส้ใหญ่” อีกด้วย

ลองสังเกตเวลาตัวเองอยู่ในห้องน้ำนะคะว่า...
  1. ถ่ายยาก กว่าจะถ่ายได้ต้องใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานมากและเป็นแบบนี้ประจำ
  2. ถ่ายน้อย ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้ง / สัปดาห์
  3. ถ่ายไม่ออก มีความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาอุดกั้นบริเวณทวารหนัก
  4. ถ่ายออก แต่เป็นก้อนแข็งและแห้ง
  5. ถ่ายเสร็จ แต่ยังมีความรู้สึกว่ายังถ่ายไม่สุด
รวมไปถึงมีความรู้สึกอึดอัด แน่น ไม่สบายท้อง ถ้าการถ่ายของคุณตรงตามนี้มากกว่า 2 ข้อ แสดงว่าคุณกำลังมีอาการ “ท้องผูก

อาการท้องผูก เกิดจากหลายสาเหตุ โดยแบ่งออกเป็น 5 สาเหตุหลัก ดังนี้
กินอาหารมีกากใยน้อย อาจจะกินเพียง 2 ใน 3 หรือน้อยกว่า ของปริมาณที่ร่างกายต้องการได้รับต่อวัน (นักโภชนาการแนะนำให้กินเส้นใยอาหารวันละประมาณ 25 - 30 กรัม/วัน) จึงมีปริมาณใยอาหารไม่เพียงพอสำหรับการช่วยกวาดช่องทางเดินอาหาร ทำให้ไขมันและสารพิษไม่สามารถถูกขับออกไปจากร่างกาย
  • ไม่ค่อยออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายนอกจากจะช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้นแล้ว ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย เพราะการเคลื่อนไหวร่างกายที่มีการยืดหดลำตัวและบิดลำตัวอย่างต่อเนื่อง มีส่วนทำให้กล้ามเนื้อลำไส้บีบตัว กระตุ้นเกิดการขับถ่ายกากของเสียออกมา
  • ดื่มน้ำน้อย มีส่วนทำให้อุจจาระแข็งและแห้ง
  • ยาบางชนิด ที่มีผลข้างเคียง เช่น กลุ่มยาทางจิตเวช ยาแก้แพ้บางชนิด ยาคุมกำเนิด ยาลดความดัน ฯลฯ
  • ลำไส้ผิดปกติ ในบางคนอาจมีปัญหาของการเคลื่อนไหวลำไส้ใหญ่ช้ากว่าปกติ กล้ามเนื้อหูรูดทวารหนักทำงานไม่ประสานกับการเบ่ง หรือมีภาวะลำไส้แปรปรวน
  • สุขนิสัยในการขับถ่ายไม่ดี เช่น การขับถ่ายไม่เป็นเวลา ที่จำเป็นอย่างยิ่งในการปรับพฤติกรรมให้มีการขับถ่ายในเวลาเดิมทุกวัน

ท้องผูก ได้ก็ดูแลให้ ระบาย ได้ เริ่มต้นง่าย ๆ เพียงลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต
  • ดื่มน้ำอุ่นแก้วใหญ่ ๆ ทันทีเมื่อตื่นนอน ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น หลอดเลือดขยายตัว ช่วยขับสิ่งตกค้างในลำไส้ออกได้ง่ายขึ้น
  • มื้อเช้าควรเน้นไฟเบอร์กันหน่อย เช่น ผัก ผลไม้ น้ำผลไม้ นม เพื่อเป็นการช่วยเสริมระบบขับถ่าย
  • ไม่ไหวอย่าฝืน รู้สึกปวดท้องถ่ายตอนไหน ให้รีบเข้าห้องน้ำทันที ถ้าอั้นไว้อาจไม่ปวดอีกเลย
  • ฝึกโยคะ เลือกฝึกท่าที่ช่วยในการย่อยอาหาร ลดก๊าซในท้อง โยคะยังช่วยให้ผ่อนคลายความเครียด อันเป็นสาเหตุหนึ่งของท้องผูก
  • ดื่มชาชงสมุนไพรก่อนนอน เลือกชาชงที่มีคุณค่าสมุนไพรธรรมชาติของมะขามแขก ที่มีส่วนช่วยระบาย เพราะจะช่วยดูแลระบบขับถ่ายให้กลับมาเป็นปกติ สำหรับคนที่ไม่ได้ท้องผูก ยังสามารถปรับใช้ได้ในวันที่รับประทานมื้อหนัก ต้องการการระบายเป็นพิเศษ รวมถึงสาว ๆ ที่ดูแลสุขภาพ และใส่ใจในรูปร่างอีกด้วยค่ะ
แชทผ่านไลน์ @Liveandfit