LOGIN / REGISTER
OR
New Register
การดำเนินการต่อถือว่าคุณยอมรับ
Terms of Use and Privacy Policy
เราอาจส่งข่าวสารให้ท่าน ท่านสามารถปิดการรับข่าวสาร
ได้โดยเปลี่ยนการตั้งค่าในบัญชีของท่าน
เราจะไม่ส่งข่าวสารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่าน
LOGIN / REGISTER
New Register
Or Login By
OR
Order by Guest Account
การดำเนินการต่อถือว่าคุณยอมรับ
Terms of Use and Privacy Policy
เราอาจส่งข่าวสารให้ท่าน ท่านสามารถปิดการรับข่าวสาร
ได้โดยเปลี่ยนการตั้งค่าในบัญชีของท่าน
เราจะไม่ส่งข่าวสารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่าน
MY CART
Manage Item
ยังไม่มีคำสั่งซื้อ
You might also like
PRODUCTS
CUSTOMER SERVICE
ABOUT US
PROMOTION
REWARDS
HELPING
ทำไม ! มัทฉะชั้นเลิศ ต้องมาจากเมืองนิชิโอะ
ทำไม ! มัทฉะชั้นเลิศ ต้องมาจากเมืองนิชิโอะ

ชาเขียวมัทฉะ ที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่นั้นมาจากประเทศญี่ปุ่นแทบทั้งสิ้น หากคุณไม่รู้จักแบรนด์เกี่ยวกับชาเขียวผง ขอแนะนำว่าควรเลือกชาเขียวจากสถานที่เพาะปลูกที่ได้รับความนิยมอย่างเช่น ชาเขียวมัทฉะจากเมืองนิชิโอะ จังหวัดไอจิ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตมัทฉะหลักแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น

โดยเฉพาะชาเขียวมัทฉะมีประวัติความเป็นมาหลายร้อยปีแล้ว เมื่อนักบวชชาวญี่ปุ่น Eichu จากวัด Bonshakuji จังหวัดไอจิ ได้เดินทางไปเป็นทูตที่ประเทศจีนรวมทั้งศึกษาตัวยาสมุนไพรจากจีน แล้วเอาชากลับมาถวายให้จักรพรรดิ Saga เมื่อท่านได้ดื่มชาก็เกิดความประทับใจในรสชาติ แต่ในสมัยนั้นความนิยมยังคงมีอยู่แต่ในเฉพาะกลุ่มชนชั้นสูงเท่านั้น ต่อมาคนญี่ปุ่นได้พัฒนาชาเขียวให้เป็นเอกลักษณ์และภาพลักษณ์ของญี่ปุ่นชัดเจนมากขึ้น เรียกได้ว่าชาดีอยู่ที่การประณีตใส่ใจในรายละเอียดจนเกิดเป็นวัฒนธรรมการชงชาหรือมนต์เสน่ห์อีกแบบหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง

เมืองนิชิโอะ เป็นเมืองเล็ก ๆ ในจังหวัดไอจิ ที่อุดมไปด้วยธรรมชาติและยังสามารถคงความดั้งเดิมของสภาพแวดล้อมบ้านเมืองได้เป็นอย่างดีจนได้รับการเป็น Little Kyoto เลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นเมืองที่โดดเด่นทางด้านมัทฉะเป็นอย่างมาก ที่นี่เป็นพื้นที่ปลูกชาคุณภาพดี มีพิพิธภัณฑ์ไอยะ นิชิโอะ มัทชะ กรีนที (Aiya Nishio Matcha Green Tea Museum) แสดงขั้นตอนการผลิตชาเขียวมัทฉะของที่เมืองนิชิโอะแห่งนี้ ตั้งแต่การปลูก เก็บเกี่ยว ไปจนถึงขั้นตอนการบดจนได้เป็นผงชาเขียวมัทฉะคุณภาพดีที่มีชื่อเสียงอันดับต้นของโลก
  • การปลูก หัวใจสำคัญคือการปลูกในร่ม เมื่อใบชาเริ่มแตกยอดแล้วเพื่อไม่ให้ใบชากระทบแสงแดด เรียกได้ว่าเป็นการชะลอการเจริญเติบโตในช่วงนั้น ยอดใบชาที่ได้จึงมีสีเขียวเข้มมากขึ้น ให้รสชาติหวานไม่ขมอย่างที่หลายคนเข้าใจ
  • การเก็บเกี่ยว การเก็บเกี่ยวใบชาต้องคัดสรรด้วยมือเท่านั้น โดยผู้เชี่ยวชาญในการเก็บใบชาจะเลือกช่วงที่ยอดอ่อนของใบชาบานสะพรั่ง
  • การอบใบชา อบด้วยไอน้ำโดยใช้เวลาประมาณ 15 - 20 วินาที และจะพร้อมใช้งานได้ภายใน 12 - 20 ชั่วโมงหลังเก็บเกี่ยว
  • การเป่าแห้ง จากขั้นตอนการอบไอน้ำใบชาที่งองุ้มจะถูกนำมาทำ “เคียวคุโระ” (Kyokuro) และ “เซนฉะ” (Sencha) ในขณะที่ใบชาที่ไม่งองุ้มจะถูกนำมาทำ “มัทฉะ” (Matcha) โดยจะใช้เครื่องเป่าที่ใช้ลมเย็น ๆ เบา ๆ ช่วยให้น้ำระเหยและแห้งตามต้องการโดยไม่ทำให้ใบชาเสียหาย
  • การบดเป็นผง นำใบชาที่แห้งสนิทแล้วไปหมุนกลิ้งหรือบดเป็นผงด้วยครก ซึ่งในสมัยก่อนนิยมใช้ครกหิน ให้ผู้ดื่มได้รับสารอาหารในใบชาได้อย่างเต็มที่

เพราะคุณเลือกมัทฉะอย่างคนรักมัทฉะ จึงต้องเลือกชาเขียวมัทฉะจากเมืองนิชิโอะ จังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น ขอแนะนำ! ผลิตภัณฑ์ชาสุวรรณ ชาเชียวมัทฉะ 
แชทผ่านไลน์ @Liveandfit