ไอติมกาแฟโฮมเมด

ไอติมกาแฟโฮมเมด
ส่วนผสม
1. เอ็มเซล คอฟฟี่ ซีรีส์3 สูตรผสมกระชายดำสกัด  10   ซอง
2. เม็ดช็อกโกแลตชิพ ชนิดไม่ใส่น้ำตาล ขนาดเม็ดกลาง หรือ ใหญ่ ก็ได้ (มาก-น้อย ตามชอบ)
3. น้ำเปล่า   5   ถ้วยตวง (1 ถ้วยตวง = 250 มล.)
4. พิมพ์ สำหรับใส่ไอติมเพื่อแช่เย็น
5. ไม้ไอติม

วิธีทำ
1. ฉีกซองกาแฟ เอ็มเซล สูตรผสมกระชายดำสกัด ลงในน้ำเปล่า คนผสมให้เข้ากัน (ชงละลายได้ทั้งร้อนและเย็น)
2. นำเม็ดช็อกโกแลตหยอดรอไว้ในพิมพ์ (ตามชอบ)
3. เทส่วนผสมของกาแฟ เอ็มเซล สูตรผสมกระชายดำสกัด ลงในพิมพ์ เสียบไม้ไอติม
แล้วนำไปแช่เย็นนาน 30 นาที หรือจนกว่าไอติมจะแข็ง...อร่อยเข้ม เต็มรสชาติทุกคำ

? รู้ไหมว่า...
ไอติมกาแฟโฮมเมด เพิ่มพลังเอ็มเซล
เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ที่มีอยู่ในกาแฟ เอ็มเซล สูตรผสมกระชายดำสกัด

กระชายดำสกัด
   อุดมไปด้วยสารสำคัญต่างๆ ได้แก่ น้ำมันหอมระเหย สารฟลาโวนอยด์, สารแอนโทไซยานิน, สารฟีนอลิก และอื่นๆ ที่มีสรรพคุณช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ทำให้ท่านชายฟิตปั๋ง โดยมีส่วนช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังอวัยวะเพศ ทำให้กล้ามเนื้อเรียบของอวัยวะเพศคลายตัว มีส่วนช่วยทำให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวได้ง่าย และบ่อยขึ้น ขึ้น มีระยะเวลาในการแข็งตัวที่นานขึ้น แต่ไม่ได้เป็นยาปลุกอารมณ์ทางเพศ

โสมสกัด
   โสม ถูกจัดให้เป็นราชาแห่งสมุนไพร สรรพคุณของโสมเลื่องลือในแถบเอเชียนานกว่า 2,000 ปีแล้ว โดยเฉพาะในปัจจุบันมีผู้ที่รับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่เพิ่มพลังโสมเข้าไป เพื่อช่วยดูแลสุขภาพและบำรุงร่างกาย เพราะโสมมีส่วนช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง, ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงาน, ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้, มีส่วนช่วยส่งเสริมสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายได้, ชะลอความแก่, ลดความเครียด, ช่วยลดความดันโลหิต, ลดและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด, ฟื้นฟูสมรรถภาพในผู้ป่วย, ดีต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน และเสริมพลัง บำรุงร่างกาย
   โสมคุณภาพดีจะปลูกในเกาหลีใต้ บริเวณเพาะปลูกที่ดีที่สุด อยู่ระหว่างละติจูดเหนือที่ 36-38 องศา แต่ถ้าสภาพดินและพื้นที่เพาะปลูกเหมาะสม โสมก็ปลูกได้ในทุกพื้นที่ และโสมเกาหลีก็ได้รับการพิจารณาให้เป็นโสมที่ดีที่สุดในโลก
ขอบคุณข้อมูล : http://www.hottaginger.com/th/hotta-sharing/พลังโสมเพื่อสุขภาพ

แอล-อาร์จินีน
   คือหน่วยเคมีโครงสร้างของโปรตีนที่เรียกว่า “กรดอะมิโน” (amino acid) ที่สามารถหาได้จากการรับประทานอาหาร และเป็นเคมีที่จำเป็นต่อการผลิตโปรตีนของร่างกาย แอล-อาร์จินีน ถูกพบอยู่ในเนื้อแดง เนื้อสัตว์ปีก ปลา ถั่ว ธัญพืช และอาหารจำพวกนม อีกทั้งนักวิทยาศาสตร์สามารถผลิตแอล-อาร์จินีน ได้จากห้องปฏิบัติการและนำไปใช้เป็นยาได้อีกด้วย
   แอล-อาร์จินีน ถูกนำไปใช้รักษาภาวะหัวใจและและหลอดเลือดต่าง ๆ อย่างภาวะหัวใจล้มเหลว, เจ็บหน้าอก, ความดันโลหิตสูง, และโรคหลอดเลือดหัวใจ แอล-อาร์จินีน ยังถูกใช้รักษาอาการปวดเรื้อรังที่ขาเนื่องจากเส้นเลือดอุดตัน (อาการปวดขาจากประสาท), ภาวะสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ, ภาวะมีบุตรยากของผู้ชาย และเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศชาย ช่วยให้เกิดการแข็งตัวมากขึ้น ช่วยเพิ่มปริมาณอสุจิ)
   แอล-อาร์จินีน ยังช่วย เพิ่มความสามารถทางกีฬา เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และป้องกันภาวะอักเสบที่ระบบย่อยอาหารในทารกที่คลอดก่อนกำหนดได้อีกด้วย

สังกะสี
   หรือ Zinc เป็นธาตุอาหารชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญต่อระบบการทำงานของร่างกาย เรียกได้ว่าเป็นหัวใจในการทำงานร่วมกับเอนไซม์ต่าง ๆ มากกว่า 300 ชนิดในร่างกายของเรา การรับประทานอาหารที่มี สังกะสี อย่างเพียงพอ จะช่วยรักษาร่างกายให้ทำงานได้อย่างสมดุล และ...
   1. ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย และเปรียบเสมือนรถบรรทุกคอยขนส่งคาร์บอนไดออกไซด์จากเซลล์และ   เนื้อเยื่อไปยังปอด นอกจากนี้ ยังเป็นเอนไซม์ช่วยย่อยโปรตีนที่ลำไส้เล็ก อีกด้วย
   2. มีส่วนช่วยบำรุงดูแลร่างกายส่วนที่สึกหรอ โดยการเข้าไปซ่อมแซม ทำหน้าที่ช่วยควบคุมการทำงานของเอนไซม์
   3. ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง เมื่อเกิดบาดแผลขึ้นมาจะช่วยเยียวยาให้แผลหายไวขึ้น

กาแฟ
   มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง โดยปกติร่างกายจะมีกลไกการกำจัดสารอนุมูลอิสระได้เอง ซึ่งเราเรียกว่าสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) แต่ด้วยอายุที่มากขึ้น ความเครียด และวิถีชีวิตในปัจจุบัน ทำให้สารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายลดน้อยลง ทำให้ไม่เพียงพอต่อการต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ร่างกายจึงต้องการสารต้านอนุมูลอิสระเสริมจากอาหารและเครื่องดื่มประจำวันในปริมาณที่มากพอ หาไม่แล้วร่างกายอาจจะเกิดการเจ็บป่วย และเสื่อมโทรมเร็วก่อนเวลาอันควร 
   สำหรับอาหารและเครื่องดื่มที่มีสารต้านอนุมูลอิสระได้แก่ผัก ผลไม้ หลากสี ,ใบชาเขียว และล่าสุดมีการค้นพบว่าในเมล็ดกาแฟอุดมไปด้วยสารโพลีฟีนอลที่มีชื่อว่า “กรดคลอโรจีนิก (chlorogenic acid)” ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ ดังนั้นการดื่มกาแฟในทุกๆ วัน จึงให้ประโยชน์มากกว่าความรื่นรมย์ในกลิ่นและรสชาติ

โกโก้ (ช็อกโกแลต)
   โกโก้ หรือช็อกโกแลต มีส่วนช่วยเพิ่มระดับสารเอ็นโดรฟินในสมอง ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้อารมณ์ดี ยิ้มและร่าเริงเป็นพิเศษ “โกโก้” ยังมีสารทริพโทฟาน ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมเซโรโทนินให้ออกมาเพื่อช่วยให้ผ่อนคลายความวิตกกังวลได้ด้วย และ โกโก้ ยังมีคุณประโยชน์อื่น ๆ ที่คนทุกเพศทุกวัยต้องการ ก็คือ...
   - โกโก้มีส่วนช่วยบรรเทาภาวะของโรคเครียด โรคซึมเศร้า รวมถึงมีส่วนช่วยกระตุ้นประสาท
   - โกโก้มีสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
   - โกโก้มีส่วนช่วยเพิ่มไขมัน HDL (คลอเรสเตอรอลที่ดี)
   - โกโก้มีส่วนช่วยลดปริมาณของไขมัน LDL (คลอเรสเตอรอลที่ไม่ดี)
   - โกโก้มีส่วนช่วยลดความดันโลหิต และมีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
   - โกโก้มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจ
   เพราะมีสาร “ฟีนอลิก” (Phenolic) อยู่ในปริมาณที่สูงและเป็นสารต้านอ็อกซิเดชัน (Antioxidant)