ไม่มีใครอยากแก่ก่อนวัย และถึงแม้ว่าจะต้องเข้าสู่วัยชรา ก็อยากสูงวัยอย่างสง่า หน้าตาผิวพรรณดูดีมีออร่า จำให้ขึ้นใจ 5 อาหาร ต้องห้าม ยิ่งกินยิ่งแก่ไว ยิ่งกินมากเท่าไหร่ ความแก่ชราจะมาหาเร็วขึ้นเท่านั้นเอง
1.น้ำตาล
จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก แนะนำให้รับประทานน้ำตาลแค่วันละ 6 ช้อนชา (หรือประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ) เท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงโรคภัยต่าง ๆ อีกทั้งการบริโภคน้ำตาลมากเกินไปทำให้แก่เร็วมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เครื่องดื่มชงเย็น 1 แก้ว ประมาณ 16 ออนซ์ ก็จะมีน้ำตาลอยู่ประมาณ 12 ช้อนชา หรือหากชอบดื่มน้ำอัดลม 1 กระป๋อง ก็จะมีน้ำตาลประมาณ 7 ช้อนชา น้ำผลไม้สำเร็จรูป จะมีน้ำตาลประมาณ 6 ช้อนชา ซึ่งในแต่ละวัน เราดื่มกันไปกี่แก้ว ! รวมไปถึงอาหารในแต่ละมื้อที่ต้องมีน้ำตาลเป็นส่วนผสม ใช่แล้ว เราบริโภคน้ำตาลกันเยอะมาก (ทั้งแบบรู้ตัวและไม่รู้ตัว) เมื่อน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายจะไปจับกับโปรตีน เกิดปฏิกิริยาไกลเคชั่น หรือที่เรียกว่า ADVANCED GLYCATION END PRODUCTS (AGEs เอดส์) ทำให้เกิดสารเร่งแก่มากขึ้น เป็นกระบวนการที่มีส่วนทำให้เกิดอนุมูลอิสระที่มากเกินไป และทำให้คอลลาเจนเกิดความยืดหยุ่นซึ่งเป็นที่มาของความแก่ได้
2.ไขมันทรานส์ / ไขมันอิ่มตัว
ไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัว ก็คือเจ้าไขมันตัวร้ายที่ทำการแทรกซึมไปตามเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังของเราได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ และยังมีส่วนในการกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระที่ส่งผลให้เกิดความแก่ขึ้นมาได้ โดยเฉพาะไขมันทรานส์ (trans fatty acids) จำพวก เนยเทียม ครีมเทียม น้ำมันทอดซ้ำ พวกของทอดต่าง ๆ ถือว่าเป็นไขมันทรานส์ทั้งนั้น อีกกลุ่มหนึ่งคือ ไขมันอิ่มตัว มองง่าย ๆ คือ ไขมันแข็ง ๆ อย่างไขมันสัตว์ และมีไขมันบางประเภทที่ไม่แข็ง แต่เป็นไขมันอิ่มตัว ได้แก่ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม กะทิ และในเนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก หมูยอ แฮม เบคอน กุนเชียง ฯลฯ
ดังนั้น เราจึงไม่ควรบริโภคน้ำมันเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน (2 ช้อนชาต่อมื้อ) และควรเลือกน้ำมันที่มีคุณภาพ มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเท่านั้น อย่างเช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนลาหรือน้ำมันเมล็ดชา เป็นต้น
3.อาหารใช้ความร้อนสูง (ปิ้ง ย่าง ทอด)
อาหารที่ต้องใช้ความร้อนสูงถือเป็นการเร่งให้เกิดสารแก่เร็ว AGEs (เอดส์) มากขึ้น ตัวอย่างเช่น ไก่ย่างมีสารเร่งแก่มากกว่าไก่ต้ม 5 เท่า หรือว่า ไก่ทอด มีสารเร่งแก่มากกว่าไก่ต้ม 9 เท่า รวมไปถึง มันฝรั่งทอด (เฟรนช์ฟรายส์) มีสารเร่งแก่มากกว่ามันฝรั่งต้มถึง 90 เท่า แต่ถ้าเราอดใจไม่ไหว อยากรับประทานจริง ๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันทอดซ้ำ หรือใช้การห่อฟอยล์ ห่อใบตอง หุ้มอาหารหรือวัตถุดิบที่เราจะปิ้ง-ย่าง ก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากพวกอนุมูลอิสระที่มีผลต่อการเกิดความแก่หรือสารก่อมะเร็งได้อีกด้วย แต่แนวทางที่ดีที่สุดในการป้องกันสารเร่งแก่ต่าง ๆ ก็คือ เลือกวิธีปรุงประกอบอาหารโดยใช้อุณหภูมิต่ำ ใช้ความร้อนไม่มากเกินไป หรือเลือกวิธีการต้ม ผัด นึ่ง จะดีกว่ามากเลยนะคะ
4.แอลกอฮอล์
ในทางโภชนาการ แอลกอฮอล์ คืออาหารที่เป็นพลังงานว่างเปล่า เพราะร่างกายไม่สามารถใช้แอลกอฮอล์เป็นพลังงานให้กับร่างกายได้ และพอร่างกายนำไปใช้ไม่ได้ ก็จะเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมที่หากมากเกินไป ก็จะเกิดออกซิเดชั่น สารอนุมูลอิสระที่มากเกินไปได้ นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ ยังขัดขวางการดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ในการต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย สังเกตได้ว่า ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำทำไมหน้าตาดูแก่ก่อนวัย
5.อาหารที่มีสารปนเปื้อน
อาหารริมทาง (ทางเท้า ริมถนน ที่มีการจราจร) ที่ไม่ได้มีภาชนะปกคลุมมิดชิด มีความเสี่ยงที่จะมีการปนเปื้อนของสารพิษหรือสารเคมีต่าง ๆ เช่น สารตะกั่ว รวมไปถึงอาหารหมักดองต่าง ๆ ที่อาจมีเชื้อแบคทีเรียก่อโรค ที่หากร่างกายได้รับสารพิษเข้าไปแล้ว ร่างกายจะเกิดกระบวนการกำจัดสารพิษที่จะต้องมีการเกิดอนุมูลอิสระขึ้นแน่นอน ที่สำคัญ สารเร่งแก่ก็เกิดขึ้นนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก มหิดล แชนแนล
คุณวนะพร ทองโฉม นักวิชาการโภชนาการ ฝ่ายโภชนาการ
คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล