Live & Fit Healthy Recipes “เมนูนี้ไม่มีน้ำตาล (No Sugar Added)”
กราโนลาเบอรี่
ส่วนผสม
กราโนลา 1 ถ้วย (ปรับ เพิ่ม-ลด ตามชอบ)
ฟิตเน่ ท็อปปิ้ง คอลลาเจน 1 ซอง (ปรับ เพิ่ม-ลด ตามชอบ)
โยเกิร์ตธรรมชาติ (ไม่มีน้ำตาล) 3 ช้อนโต๊ะ
สตรอว์เบอร์รี่ 3 ลูก (หั่นชิ้น)
บลูเบอร์รี่ 10 ลูก (ปรับ เพิ่ม-ลด ตามชอบ)
ใบสะระแหน่ (สำหรับตกแต่งให้สวยงาม)
วิธีทำ
1.นำ กราโนลา ใส่ในภาชนะ โรยด้วย ฟิตเน่ ท็อปปิ้ง คอลลาเจน คลุกเคล้าให้เข้ากัน
2.ตักราดหน้าด้วยโยเกิร์ต พร้อมจัดวางท็อปปิ้ง สตรอว์เบอร์รี่ & บลูเบอร์รี่ และใบสะระแหน่
? รู้ไหมว่า...
กราโนลา (granola) เป็นได้ทั้งอาหารเช้าจำพวกธัญพืชหรือเป็นขนมกินเล่นก็ได้ ประกอบไปด้วย ถั่ว ข้าวโอ๊ต น้ำผึ้ง ผสมเข้าด้วยกันและอบจนกรอบ บางครั้งก็มีการเพิ่มผลไม้แห้ง เช่น ลูกเกด หรืออินทผลัมลงไปด้วย ถ้ามีการคนระหว่างอบ กราโนลาจะไม่เกาะกันมากนัก กราโนรา มีน้ำหนักเบา เก็บได้นาน จึงมักถูกนำไปเป็นเสบียงระหว่างการเดินทาง หรือกินในช่วงเวลา (เร่งรีบ) ไปทำงาน หรือไปเรียนหนังสือ
ที่สำคัญ ถั่วต่าง ๆ ที่เป็นส่วนผสมใน กราโนลา อุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต กรดอะมิโน มีไขมันชนิดดีสูง มีเส้นใยอาหารสูง มีวิตามินและเกลือแร่สูง โดยเฉพาะโปรตีนมีมากกว่าเนื้อสัตว์บางชนิดถึงสองเท่าในปริมาณที่เท่ากัน เรียกได้ว่า ถั่วอัดแน่นไปด้วยประโยชน์อย่างแท้จริง ไล่ตั้งแต่บำรุงผิวไปจนถึงป้องกันโรคที่เกี่ยวกับหัวใจ ดังต่อไปนี้
ถั่วมีส่วนช่วยแก้ปัญหาผิว
การรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของถั่วมีส่วนช่วยให้ผิวพรรณดูดี เพราะ ถั่ว เป็นหนึ่งในส่วนผสมที่ใช้รักษาปัญหาผิวสีเข้มมากผิดปกติ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการค้นพบด้วยว่า สารไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen) ในถั่วมีส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์เก่า ทำให้ไขมันใต้ผิวหนังไม่จับตัวกันเป็นก้อน ช่วยเสริมสร้างความงามให้แก่เรือนร่าง ช่วยทำให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง ดูมีน้ำมีนวล ลดปัญหาสิว ฯลฯ ที่สำคัญ สามารถช่วยต้านความแก่ชราได้ จึงมีคุณค่าทางอาหารที่เหมาะแก่สุภาพสตรีเป็นอย่างมาก และเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากมีผิวสวย หรือมีผิวที่ดูเด็กกว่าวัย
ถั่วช่วยลดอาการที่เกิดจากวัยทอง
ผู้หญิงส่วนมากในประเทศแถบเอเชียที่รับประทานอาหารประเภทถั่วเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่บริโภคตามปกติ มักไม่ค่อยเกิดอาการร้อนวูบวาบในช่วงวัยทอง การศึกษาพบว่าไอโซฟลาโวนในถั่วช่วยลดความถี่และความรุนแรงของอาการร้อนวูบวาบลงถึง 20% ถั่วได้รับการแนะนำจากสมาคมวัยทองแห่งอเมริกาเหนือในการช่วยลดอาการวัยทอง
ถั่วช่วยป้องกันการเกิดมะเร็ง
ถั่ว มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งลำไส้ ผลการวิจัยพบว่าผู้ที่ได้รับไอโซฟลาโวนจากอาหารที่มีถั่วเป็นส่วนประกอบในปริมาณที่สูง มีอัตราการเสี่ยงในการเสียชีวิตลดลง 17% และมีอัตราการเกิดมะเร็งเต้านมซ้ำอีกครั้งน้อยกว่าผู้หญิงที่ไม่ได้รับประทานอาหารจากถั่วถึง 25%
ถั่วมีส่วนช่วยลดความดันโลหิต
เพราะถั่วมีสารโพลีฟีนอลที่มีส่วนช่วยควบคุมความดันไม่ให้อยู่ในระดับสูงเกินไป หากผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากถั่ว ก็จะมีส่วนช่วยบรรเทาและรักษาอาการ โดยจะไปลดความดันซิสโตลิก (Systolic pressure) และไดแอสโตลิก (Diastolic pressure) ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี
ถั่วมีส่วนช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน
ถั่ว มีแคลเซียมสูง ยิ่งอยู่ในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่มีการเพิ่มแคลเซียมเข้าไปอีก ยิ่งมีส่วนช่วยลดโอกาสการเกิดโรคกระดูกพรุนได้มากขึ้น
ถั่วมีส่วนช่วยให้หัวใจแข็งแรง
โปรตีนจากถั่ว เส้นใยอาหาร และสารไอโซฟลาโวนที่มีในถั่ว มีส่วนช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือด ลดความดันโลหิต มีส่วนช่วยรักษาหลอดเลือดให้มีความยืดหยุ่นเมื่อคุณอายุมากขึ้น และรู้หรือไม่ว่า! ผลการวิจัย แสดงให้เห็นว่าโปรตีนจากถั่วช่วยลดระดับ LDL หรือระดับโคเลสเตอรอลตัวเลว ลงถึง 5.5%
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
เป็นผลไม้จากเมืองหนาวอย่าง สตรอว์เบอร์รี่ แบล๊คเบอร์รี่ เชอร์รี่ ราสเบอร์รี่ แคนเบอร์รี่ บลูเบอรี่ ที่นอกจากจะมีรสชาติหวานฉ่ำหรือหวานอมเปรี้ยวแล้ว ยังมีคุณค่าที่ร่างกายควรได้รับหลายอย่าง โดยเฉพาะ สารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีอยู่สูงใน "ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่" ที่มีส่วนช่วยสร้างภูมิต้านทาน ช่วยป้องกันโรคหวัด ช่วยในเรื่องความจำ มีส่วนช่วยในการมองเห็น บำรุงสายตา ควบคุมน้ำหนัก ช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์ จึงทำให้ร่างกาย ผิวพรรณไม่รีบแก่ อีกด้วย