LOGIN / REGISTER
OR
New Register
การดำเนินการต่อถือว่าคุณยอมรับ
Terms of Use and Privacy Policy
เราอาจส่งข่าวสารให้ท่าน ท่านสามารถปิดการรับข่าวสาร
ได้โดยเปลี่ยนการตั้งค่าในบัญชีของท่าน
เราจะไม่ส่งข่าวสารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่าน
LOGIN / REGISTER
New Register
Or Login By
OR
Order by Guest Account
การดำเนินการต่อถือว่าคุณยอมรับ
Terms of Use and Privacy Policy
เราอาจส่งข่าวสารให้ท่าน ท่านสามารถปิดการรับข่าวสาร
ได้โดยเปลี่ยนการตั้งค่าในบัญชีของท่าน
เราจะไม่ส่งข่าวสารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่าน
MY CART
Manage Item
ยังไม่มีคำสั่งซื้อ
You might also like
PRODUCTS
CUSTOMER SERVICE
ABOUT US
PROMOTION
REWARDS
HELPING
5 สุดยอดสมุนไพร เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
5 สุดยอดสมุนไพร เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

กินอาหารให้เป็นยา อย่ากินยาเป็นอาหาร เป็นการดูแลสุขภาพด้วยอาหารที่เรากินทุกวัน เพียงแต่เราต้องรู้ว่า อะไรที่เรากินแล้วให้คุณประโยชน์ที่จำเป็นแก่ร่างกายมากกว่าให้โทษ และควรกินในปริมาณที่พอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป กินเพื่อสุขภาพกายใจที่ดีของเรา เพราะวันไหนที่ป่วยขึ้นมาคงได้กินยาเป็นอาหารแทนแน่ ๆ
เมื่อรู้แบบนี้แล้ว Live & Fit ขอแนะนำให้รู้จัก 5 สมุนไพร ที่กินแล้วดีมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ 



1. ขิง 
มีประโยชน์สำหรับทุกเพศทุกวัย และถือว่าเป็นเครื่องเทศอันดับหนึ่งของระบบอายุรเวท โดยขิงมีฤทธิ์ช่วยให้โพรงจมูกโล่งและป้องกันอาการหวัดคัดจมูก สามารถนำขิงมาประกอบอาหารหรือชงน้ำขิงดื่มแบบไม่ยุ่งยากแต่ประโยชน์เยอะ เพราะขิงอุดมไปด้วย จินเจอร์รอล และ วิตามินซี ที่มีส่วนสำคัญในการช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย เนื่องจากมีการวิเคราะห์สารสำคัญใน ขิง พบว่าสารจินเจอร์รอลและวิตามินซีมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง

จินเจอร์รอล เป็นสารสำคัญชนิดหนึ่งในขิงที่มีมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงและทรงพลัง ที่มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และมีส่วนช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต  เสริมสร้างให้ร่างกายห่างไกลจากโรคภูมิแพ้ต่าง ๆ ช่วยปกป้องคุณจากไวรัสหลากหลายชนิดที่จ้องทำร้ายเราในยามที่ร่างกายอ่อนแอ

วิตามินซี เชื่อแน่ว่าทุกคนรู้จักและทราบถึงประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะการมีส่วนช่วยในการทำหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน หรือเรียกได้ว่าช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานได้ดี และยังมีคุณประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ มีส่วนช่วยป้องกันโรคหวัด, ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง, มีส่วนช่วยในกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระและปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ, มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนเพื่อการทำงานตามปกติของกระดูกและกระดูกอ่อน, มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนเพื่อการทำงานตามปกติของเหงือกและฟัน, มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนเพื่อการทำงานตามปกติของผิวหนัง, มีส่วนช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานจากเมตาบอลิซึมตามปกติ, มีส่วนช่วยในการทำงานตามปกติของระบบประสาท, มีส่วนช่วยในการคืนสภาพของรีดิวซ์วิตามินอี และเพิ่มการดูดซึมเหล็ก

จึงมีการนำขิงมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในภาวะที่ต้องการเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย เพราะสารจินเจอร์รอลและวิตามินซีที่ทรงพลังของขิงมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายนั่นเอง



2. โสม
จัดว่าเป็นสมุนไพรที่ขนานนามกันให้เป็น ราชาของสมุนไพร หรือสุดยอดสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ด้วยคุณประโยชน์มากมายของโสมเพียงแค่ปลายรากเล็ก ๆ ก็มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายในการช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ช่วยต่อต้านสารพิษต่าง ๆ จากสภาพแวดล้อมได้ดี ช่วยกระตุ้นเซลล์ให้สร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยต้านการติดเชื้อไวรัส ช่วยเพิ่มการผลิตฮอร์โมนไทมัส ซึ่งสำคัญต่อการทำหน้าที่ของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายสามารถต้านทานต่อยา แอลกอฮอล์ เคมีบำบัด และสารพิษต่าง ๆ ได้มากขึ้น

นอกจากนี้ โสม ยังเป็นยาครอบจักรวาลที่มีส่วนช่วยเพิ่มระดับพลังงาน บรรเทาความอ่อนเพลียเมื่อยล้าของร่างกาย ทำให้ร่างกายมีการปลดปล่อยพลังงานมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยทำให้ผนังเซลล์ดูดซึมออกซิเจนเพิ่มขึ้น มีผลทำให้ขบวนการเผาผลาญในร่างกายมีมากขึ้น ร่างกายสามารถปลดปล่อยพลังงานออกมาได้มาก จึงทำให้เหน็ดเหนื่อยช้า มีความทนทานต่อการทำงานหนักมากขึ้น เพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ที่ดื่มโสมนั่นเอง



3. ถั่งเฉ้า
เป็นยาบำรุงร่างกายชั้นยอด มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เหมาะสำหรับผู้ที่รักและดูแลสุขภาพ เพราะถั่งเฉ้ามีส่วนช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน,บรรเทาอาการภูมิแพ้, บำรุงไต, บรรเทาอาการอ่อนเพลีย, บรรเทาอาการไอ, บรรเทาอาการเจ็บหน้าอก, บรรเทาอาการหอบหืด, ละลายเสมหะ, บำรุงปอด, ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด, ช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือด, ใช้บำรุงผู้ป่วยที่เพิ่งฟื้นไข้, ชะลอความชรา, ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของเลือดให้คล่องตัว ช่วยขยายหลอดเลือด และเพิ่มปริมาณของเลือดที่เข้าไปหล่อเลี้ยงปอดและหัวใจ เพิ่มระดับออกซิเจนและช่วยบำรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของตับและไตให้ดีขึ้น บรรเทาอาการหย่อนและเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ และเห็ดถั่งเฉ้ายังเชื่อว่าช่วยรักษาโรคมะเร็งได้อีกด้วย จึงมีความต้องการในท้องตลาดสูง และมีราคาแพง



4. เห็ดชิตาเกะ หรือเห็ดหอม
เป็นเห็ดชนิดหนึ่งที่นิยมรับประทานกัน และมีผลการศึกษาที่พบว่า เห็ดชิตาเกะ หรือเห็ดหอม เป็นเห็ดที่มีแคลอรี่ต่ำและเป็นแหล่งไฟเบอร์ชั้นดีที่อุดมไปด้วยเกลือแร่ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 12 วิตามินดี และกรดแพนโททีนิค (Pantothenic) นอกจากนี้ยังมีโปรตีน เอนไซม์ กรดอะมิโนที่จำเป็นอีก 8 ชนิด และสารเลนทิแนน (lentinan) ที่มีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพในการต่อสู้ยับยั้งหรือป้องกันร่างกายจากสิ่งแปลกปลอมที่ทำให้เกิดการติดเชื้อและช่วยฟื้นฟูร่างกาย นับว่าเป็นเห็ดที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก ชาวจีนและญี่ปุ่นเชื่อว่าเห็ดชิตาเกะ หรือเห็ดหอม เป็นเห็ดบำรุงกำลัง เพิ่มการไหลเวียนโลหิต บำรุงกระดูก และเป็นยาอายุวัฒนะ



5. เห็ดหลินจือ
เป็นสมุนไพรจีนที่ใช้เพื่อรักษาทางการแพทย์มานานกว่า 4,000 ปี และมีสรรพคุณที่หลากหลาย จึงเชื่อว่าการกินเห็ดหลินจือสามารถทำให้อายุยืนยาวอีกด้วย โดยคุณค่าทางโภชนาการของเห็ดหลินจือ (100 กรัม) มีพลังงาน 22 แคลอรี่, คาร์โบไฮเดรต 3.3 กรัม, โปรตีน 3.1 กรัม, ไขมัน 0.3 กรัม, ใยอาหาร 1 กรัม, น้ำตาล 2 กรัม, โพแทสเซียม 432 มิลลิกรัม, แคลเซียม 1.88 มิลลิกรัม, แมกนีเซียม 7.95 มิลลิกรัม, โซเดียม 2.82 มิลลิกรัม, ฟอสฟอรัส 225 มิลลิกรัม, ซัลเฟอร์ 129 มิลลิกรัม, ทองแดง 26 มิลลิกรัม, แมงกานีส 22 มิลลิกรัม, สังกะสี 0.7 กรัม ในทางการแพทย์แผนปัจจุบัน มีการนำคุณประโยชน์ของเห็ดหลินจือที่มีส่วนช่วยเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย ไปใช้ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้ติดเชื้อ HIV และช่วยลดอาการข้างเคียงหรือแก้พิษจากการทำคีโม เป็นต้น
แชทผ่านไลน์ @Liveandfit