LOGIN / REGISTER
OR
New Register
การดำเนินการต่อถือว่าคุณยอมรับ
Terms of Use and Privacy Policy
เราอาจส่งข่าวสารให้ท่าน ท่านสามารถปิดการรับข่าวสาร
ได้โดยเปลี่ยนการตั้งค่าในบัญชีของท่าน
เราจะไม่ส่งข่าวสารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่าน
LOGIN / REGISTER
New Register
Or Login By
OR
Order by Guest Account
การดำเนินการต่อถือว่าคุณยอมรับ
Terms of Use and Privacy Policy
เราอาจส่งข่าวสารให้ท่าน ท่านสามารถปิดการรับข่าวสาร
ได้โดยเปลี่ยนการตั้งค่าในบัญชีของท่าน
เราจะไม่ส่งข่าวสารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่าน
MY CART
Manage Item
ยังไม่มีคำสั่งซื้อ
You might also like
PRODUCTS
CUSTOMER SERVICE
ABOUT US
PROMOTION
REWARDS
HELPING
5 สรรพคุณขิง เครื่องเทศที่ดีต่อสุขภาพ
5 สรรพคุณขิง เครื่องเทศที่ดีต่อสุขภาพ

ขิงเป็นไม้ล้มลุกที่มีต้นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเครื่องเทศที่ดีต่อสุขภาพ (และอร่อยมากด้วย) จัดอยู่ในวงศ์ Zingiberaceae มีความเกี่ยวข้องกับขมิ้น กระวาน และข่า เหง้าของขิง (ส่วนใต้ของลำต้น) เป็นส่วนที่นิยมใช้เป็นเครื่องเทศ มักเรียกว่ารากขิงหรือเรียกง่าย ๆ ว่าขิง

ขิงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งสด แห้ง ผง น้ำมัน หรือทำเป็นน้ำผลไม้ และมักใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร บางครั้งก็นำไปเป็นส่วนผสมในอาหารแปรรูปและเครื่องสำอาง แต่ประโยชน์ต่อสุขภาพของขิงนั้นมีมากมาย และยังได้รับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์มาแล้วด้วย ดังนี้

1. มีจินเจอร์รอล สรรพคุณทางยาที่ทรงประสิทธิภาพ
ขิง มีประวัติการใช้ในทางการแพทย์แผนโบราณและแพทย์ทางเลือกมาอย่างยาวนาน เพื่อช่วยให้อาหารย่อยได้ง่าย ลดอาการคลื่นไส้ และช่วยต่อสู้กับไข้หวัดใหญ่ กลิ่นหอมและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของขิงได้มาจากน้ำมันธรรมชาติของต้นขิงเอง

ที่สำคัญที่สุดคือขิงมีจินเจอร์รอล (Gingerol) ที่เป็นสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพหลัก มีสรรพคุณทางยาที่ช่วยต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น อาจช่วยลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่มีอนุมูลอิสระในร่างกายมากเกินไป

2. รักษาอาการคลื่นไส้ได้
ขิงมีประสิทธิภาพในการต่อต้านอาการคลื่นไส้สูง ซึ่งช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนของผู้ที่เพิ่งผ่าตัดและผู้ที่เพิ่งทำเคมีบำบัดมาได้ และยิ่งไปกว่านั้น ขิงยังช่วยลดอาการคลื่นไส้ที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ได้ดี เช่น อาการแพ้ท้อง ฯลฯ

จากการศึกษาพบว่าคุณแม่ที่ตั้งครรภ์แล้วทานขิงเป็นประจำ สามารถลดอาการคลื่นไส้ได้อย่างมาก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าขิงจะปลอดภัย แต่คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะรับประทานขิงในปริมาณมาก และขอแนะนำว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ใกล้คลอดหรือเคยแท้งบุตรควรจะหลีกเลี่ยงการทานขิง เพราะขิงไม่เหมาะกับผู้ที่เคยมีเลือดออกทางช่องคลอดและการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ

3. ช่วยในการลดน้ำหนัก
ขิงอาจมีบทบาทในการช่วยลดน้ำหนักได้ จากการศึกษาพบว่าขิงช่วยลดน้ำหนักตัว อัตราส่วนเอวต่อสะโพก และอัตราส่วนสะโพกในผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนได้ นอกจากนี้ ยังพบว่าขิงสามารถช่วยลดดัชนีมวลกาย (BMI) และระดับอินซูลินในเลือดได้ ซึ่งการมีระดับอินซูลินในเลือดสูงนั้นมีความสัมพันธ์กับโรคอ้วน

4. ช่วยเรื่องข้อเสื่อมได้
โรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis) เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเสื่อมของข้อต่อในร่างกาย และนำไปสู่อาการต่าง ๆ เช่น อาการปวดข้อและอาการข้อตึง โดยการศึกษาพบว่าผู้ที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมแล้วรับประทานขิง จะมีความเจ็บปวดในข้อต่อลดลง นอกจากนี้ ยังพบว่าการนำน้ำมันขิง ยางไม้แมซ-ทิค  อบเชย และงามาผสมแล้วรับประทาน สามารถช่วยลดอาการปวดและตึงในผู้ที่มีข้อเข่าเสื่อมได้ดี

5. ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
งานวิจัยบางชิ้นพบว่าขิงมีคุณสมบัติในการต้านเบาหวานที่ทรงประสิทธิภาพ โดยพบว่าผู้ที่เป็นเบาหวานแล้วทานน้ำขิงทุกวันจะมีระดับน้ำตาลในเลือดลดลง อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการศึกษาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ยังต้องได้รับการยืนยันจากการศึกษาชิ้นใหญ่ก่อน

นอกจากนี้ขิงยังมีสรรพคุณในเรื่องของการช่วยย่อยอาหาร ลดการอักเสบ และบรรเทาอาการปวด รวมไปถึงสรรพคุณอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ควรทำความเข้าใจ ศึกษาผลกระทบ และความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ทำมาจากขิงอย่างละเอียดก่อนที่จะรับประทาน
แชทผ่านไลน์ @Liveandfit