แนะนำ 5 ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับผู้สูงอายุ ที่ปลอดภัยมี อย.

“ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร” เป็นอาหารที่เสริมคุณประโยชน์เพิ่มเติมขึ้นมากกว่าอาหารปกติเพื่อทดแทนสารอาหารบางอย่างที่อาจจะขาดหายไปในระหว่างมื้ออาหาร หรือได้รับไม่เพียงพอจากอาหารมื้อปกติที่เรากินอยู่ทุกวัน รวมถึงในบางคนที่ร่างกายผิดปกติจนทำให้เราได้รับสารอาหารบางอย่างน้อยกว่าคนธรรมดาที่มีสุขภาพร่างกายปกติ

โดยส่วนใหญ่เราสามารถได้รับวิตามินและแร่ธาตุทั้งหมดที่ร่างกายต้องการได้ การกินที่มีประโยชน์หรือกิน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจำพวกวิตามินรวมต่าง ๆ เพื่อให้มีสุขภาพที่แข็งแรง แต่เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจากที่เคยแข็งแรง ก็เริ่มมีส่วนที่สึกหล่อไปบ้างเป็นธรรมดา ซึ่งผู้สูงอายุส่วนใหญ่สามารถรับวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่จำเป็นได้จากการกินอาหารที่มีสารนั้น ๆ อย่างเหมาะสม แต่บางครั้งก็ไม่สามารถรับสารอาหารที่ต้องการได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่คนหนุ่มสาวกินกันนั้นก็ไม่ได้เหมาะสำหรับผู้สูงอายุเสมอไป ดังนั้น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สำหรับ ผู้สูงอายุ จึงเป็นทางเลือกที่ดีในการเสริมแร่ธาตุและสารอาหารต่าง ๆ ที่ร่างกายต้องการภายในเม็ดเดียว ซึ่งในบทความนี้เราจะรวบรวมข้อมูล และรีวิวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับผู้สูงอายุ ที่อาจเป็นประโยชน์และทำให้คุณมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น

วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายผู้สูงอายุ
วิตามินเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อสุขภาพที่ดี จำนวนที่ต้องการก็ขึ้นอยู่กับวิตามินแต่ละประเภทและก็ขึ้นอยู่กับอาหารการกินของแต่ละคน เนื่องจากร่างกายของแต่ละบุคคลสามารถสร้างวิตามินในปริมาณที่จำกัด รวมถึงแร่ธาตุก็เป็นสารอาหารอื่น ๆ ที่ร่างกายต้องการในการใชีชีวิตประจำวันเช่นกัน ได้แก่ เหล็ก แคลเซียม และสังกะสี เป็นต้น

1. วิตามินดี Vitamin D
ร่างกายของเราจะได้รับวิตามินดีจากดวงอาทิตย์เป็นส่วนใหญ่ และด้วยสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนในประเทศ เราอาจจะได้รับวิตามินดีเกินความจำเป็นด้วยซ้ำ แต่อย่างที่ทราบกันดีว่าเมืองไทยนั้นไม่ได้มีเพียงหน้าร้อน แต่ยังมีหน้าฝนด้วย และบางครั้งคุณไม่ได้มีเวลาออกไปรับแสงแดดอย่างน้อย 10-15 นาทีต่อวันอย่างสม่ำเสมอ ยิ่งบางพื้นที่ที่มีอากาศหนาว มีเมฆหมอกปกคลุม ยิ่งยากที่จะได้รับวิตามินดีจากดวงอาทิตย์ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่ผู้คนจะได้รับวิตามินดีทั้งหมดที่พวกเขาต้องการ ด้วยเหตุนี้จึงแนะนำให้ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี กินอาหารเสริมวิตามินดี 10 ไมโครกรัมต่อวัน แสงแดดอาจจะมีประโยชน์ก็จริง แต่ก็อย่าลืมปกปิดหรือปกป้องผิวของคุณด้วย ครีมกันแดด หากคุณออกไปกลางแดดเป็นเวลานาน

นอกจากนี้วิตามินดีจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมจากลำไส้ได้ดีขึ้น ซึ่งแคลเซียมนั้นจะช่วยเสริมสร้างฟันและกระดูกให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน ดังนั้นหากต้องการให้ร่างกายได้รับแคลเซียมที่เพียงพอ ก็ควรกินวิตามินดีควบคู่กับการกินแคลเซียมไปด้วยนะคะ การกินวิตามินดีในปริมาณที่เหมาะสม อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง และโรคหัวใจได้

วิตามินดีมี 2 รูปแบบ คือวิตามิน D2 (ergocalciferol) และวิตามิน D3 (cholecalciferol) เนื่องจากวิตามิน D3 เป็นวิตามินดี ที่ผลิตโดยและใช้ในร่างกายของคุณ คุณควรมองหาวิตามิน D3 ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สำหรับ ผู้สูงอายุ แต่หากคุณเป็นมังสวิรัติ คุณสามารถใช้วิตามิน D2 แทนได้ เพราะมันไม่ได้มาจากสัตว์ แล้วร่างกายของคุณจะแปลงเป็นวิตามิน D3 เอง

2. วิตามินซี Vitamin C
แน่นอนค่ะว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวิตามินซีนั้น เป็นที่นิยมสำหรับผู้สูงอายุ วิตามินซีเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่ผู้สูงอายุหลายคนเลือกกินเพื่อป้องกันโรคหวัดและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วยในการต่อสู้กับโรค การติดเชื้อต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระคุณภาพดีอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การกินผลไม้รสเปรี้ยวและผักเป็นจำนวนมาก มีส่วนช่วยให้คุณได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ตามต้องการได้ อาทิ สตรอเบอร์รี ส้ม มะม่วง มะเขือเทศ และขิง

3. แคลเซียม Calcium
แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่ร่างกายของเราสร้างเองไม่ได้ แต่กลับเป็นแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ เพราะที่มีประโยชน์อย่างกว้างขวาง อาทิเช่น การรักษากระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยให้เลือดแข็งตัวเป็นปกติ ควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อ ควบคุมการเต้นของหัวใจ ช่วยในเรื่องการทำงานของเส้นประสาท ลดความดันโลหิต เป็นต้น แคลเซียมเกือบทั้งหมดในร่างกาย สามารถพบได้ในกระดูกของคุณ เมื่ออายุมากขึ้นแคลเซียมก็มีแนวโน้มที่จะลดลงในกระดูก ซึ่งอาจทำให้คุณเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน หรือทำให้กระดูกเปราะง่ายขึ้น เพื่อรักษากระดูกให้แข็งแรง เมื่ออายุมากขึ้น คุณควรทานแคลเซียมเสริม ในปริมาณที่พอเหมาะ และออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย

ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมเป็นแหล่งของแคลเซียมที่ดีเยี่ยม รวมถึงถั่ว ผักคะน้า บรอคโคลี และกะหล่ำปลี การกินแคลเซียมในปริมาณสูงอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่นปวดท้องและท้องร่วง ดังนั้นคุณควรกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเซียมเมื่อแพทย์แนะนำเท่านั้น

4. ธาตุเหล็ก Iron
เหล็กมีบทบาทสำคัญหลายประการ รวมถึงเป็นแร่ธาตุสำคัญที่พบในเซลล์เม็ดเลือดแดง ซึ่งเซลล์เม็ดเลือดแดงเป็นเซลล์ที่ขนส่งออกซิเจนในร่างกายของคุณ การขาดธาตุเหล็กอาจนำไปสู่โรคโลหิตจาง คนส่วนใหญ่สามารถได้รับธาตุเหล็กจากอาหารประเภท เนื้อสัตว์ปีก อาหารทะเล ถั่ว ธัญพืช ผักใบเขียว ซึ่งอาหารเหล่านี้เป็นแหล่งที่มาของธาตุเหล็กที่ดี

เมื่อมีอายุมากขึ้น ร่างกายดูดซับธาตุเหล็กน้อยลง ยิ่งการขาดธาตุเหล็กในผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 50 ปี อาจเป็นสัญญาณเตือนแรกของปัญหาสุขภาพพื้นฐาน

5. วิตามินบี Vitamin B
มีวิตามินบีหลายประเภท และก็มีหน้าที่แตกต่างกันภายในร่างกาย รวมถึงช่วยในการสลายพลังงานจากอาหาร ทำให้ผิวหนัง ดวงตา และระบบประสาทแข็งแรง ทั้งยังช่วยในเรื่องของการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงอีกด้วย วิตามิน B12 ถูกใช้โดยเซลล์ทั้งหมดในร่างกายของคุณ โดยเฉพาะเซลล์สมองและไขสันหลัง อย่างไรก็ตามเมื่ออายุมากขึ้น การดูดซึมวิตามิน B12 ก็ยากขึ้น รวมถึงผู้กินมังสวิรัติมักจะมีความเสี่ยงต่อการขาดวิตามิน B12 ซึ่งอาจจะเพิ่มความเสี่ยงของโรคโลหิตจาง และปัญหาทางระบบประสาท เช่นการสูญเสียความจำก็เป็นไปได้ ดังนั้นควรกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวิตามินบี 12 ปริมาณ 2 mg ต่อวัน (หรือน้อยกว่า)

หรือเน้นกินวิตามิน B12 ที่สามารถพบได้มากที่สุดในในเนื้อสัตว์ปีก ปลา อย่างเช่นปลาแซลมอน (Salmon) รวมถึงนม เนยแข็ง ไข่ และอาหารเช้าพวกซีเรียล เป็นต้น

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมีผลต่อความอยากอาหารในผู้สูงอายุ
คือสาเหตุหนึ่งที่ว่าทำไมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับผู้สูงอายุจึงเป็นที่นิยม เพราะเมื่ออายุมากขึ้นความอยากอาหารก็จะลดลง อันเนื่องมาจากการรับรู้สัมผัสในเรื่องของรสชาติและกลิ่นแย่ลง ยาประจำตัวที่มีผลต่อความอยากอาหาร สุขภาพฟันแย่ การเตรียมอาหารที่ยากลำบากขึ้น นั้นจึงทำให้ผู้สูงอายุรับสารอาหารและแร่ธาตุต่าง ๆ ไม่เพียงพอในแต่ละวัน

ดังนั้นจึงมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลายชนิด สำหรับผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเพิ่มความอยากอาหารได้ อาทิ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจำพวก สังกะสี, วิตามินบีรวม, น้ำมันปลา หรือ น้ำมันโอเมก้า เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อกระตุ้นความอยากอาหารได้อย่างดี อย่างไรก็ตาม เราแนะนำให้คุณปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเหล่านี้

การดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายและจำเป็นจะต้องดูแลใส่ใจในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องอาหารสำคัญมาก บางครั้งท่านก็เบื่ออาหาร กินได้น้อย หรือไม่อยากกินเลย จนอาจทำให้ได้รับสารอาหารที่ไม่ครบถ้วน ลูก ๆ จึงควรต้องหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สำหรับ ผู้สูงอายุให้ท่านกินเพิ่มเติมบ้าง ซึ่งหากยังเลือกไม่ได้ เราได้รวบรวมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สำหรับ ผู้สูงอายุที่ดีที่สุดไว้ให้แล้ว โดยทุกผลิตภัณฑ์ต้องผ่านเกณฑ์การคัดเลือกที่ดีคือ

• อุดมไปด้วยสารอาหารและวิตามินครบถ้วน หากผู้สูงอายุกินอาหารไม่ได้หรือกินได้น้อย ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับผู้สูงอายุที่จะให้ท่านกินควรอุดมไปด้วยสารอาหารและมีวิตามินครบถ้วน เพื่อช่วยให้ท่านได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
• ผ่านการรับรองจากแพทย์ว่าปลอดภัย ผู้สูงอายุมักไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้ว หากกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่ปลอดภัยเข้าไปอีก อาจทำให้ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน หรือเกิดอาการอื่น ๆ ซึ่งจะทำให้ท่านแย่ลง หรืออาจต้องถึงขั้นนำส่งโรงพยาบาล ดังนั้นโปรดตรวจสอบให้ถี่ถ้วนว่าอาหารเสริมเหล่านี้มีใบรับรองทางการแพทย์ว่าปลอดภัย 100%
• ราคาไม่แพงจนเกินไป ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับผู้สูงอายุหลายชนิดมักมีราคาค่อนข้างแพงอยู่แล้ว การเลือกซื้อจึงสำคัญ ควรตรวจดูว่าราคากับสรรพคุณที่เอ่ยอ้างถึง เหมาะสม ไม่แพงจนเกินไป

5 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับผู้สูงอายุที่ปลอดภัยมี อย.



ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจน: มีส่วนช่วยยืดอายุเอ็นข้อต่อและกระดูกไขข้อ
โรคกระดูกพรุนและโรคข้อเข่าเสื่อม เป็นหนึ่งในโรคที่ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักเป็นกัน เนื่องจากอายุที่มากขึ้น ร่างกายจึงสูญเสียแคลเซียมในกระดูก รวมถึงมวลในกระดูกเริ่มลดน้อยลง จนอาจรู้สึกเจ็บปวดบริเวณกระดูกและข้อได้ และอาจร้ายแรงถึงขั้นกระดูกแตกหรือหักได้เลยนะคะ ดังนั้นผู้สูงอายุสามารถบรรเทาอาการจากโรคกระดูกพรุนและโรคข้อเข่าเสื่อมได้ด้วยการกินอาหารเสริมประเภทคอลลเจนเข้าไป เพราะอาหารเสริมตัวดังกล่าวสามารถเสริมสร้างเอ็นข้อต่อและกระดูกไขข้อ พร้อมลดอาการปวดข้อเข่าและกระดูก นอกจากนี้คอลลาเจน ยังมีส่วนช่วยรักษาสภาพของเส้นผม ขน และเล็บ เพิ่มความแข็งแรง ไม่เปราะ แตก หรือหลุดร่วงง่ายอีกด้วย



ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลา วิตามินบี และแปะก๊วย: บำรุงระบบประสาทและสมองความจำ
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อบำรุงสมองก็เป็นอีกหนึ่งอาหารเสริมที่จำเป็นสำหรับผู้สูงอายุหลาย ๆ ท่าน เพราะว่าเมื่ออายุมากขึ้น ผู้สูงอายุมักประสบกับปัญหาเรื่องของความจำไปจนถึงภาวะสมองเสื่อมกันมากขึ้น จนทำให้ไม่สามารถพูดหรือควบคุมอารมณ์ของตนเอง รวมถึงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองในการใช้ชีวิตประจำวันได้ ดังนั้นเพื่อป้องกันภาวะดังกล่าว ผู้สูงอายุจำเป็นต้องกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อสมอง อาทิ ข้าวกล้อง ปลา และอาหารทะเล เป็นต้น สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง ได้แก่ น้ำมันปลา วิตามินบี และสารสกัดจากแปะก๊วย



ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสารสกัดผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่และลูทีน: บำรุงสายตา
สำหรับผู้สูงอายุ ดวงตาก็เป็นหนึ่งในอวัยวะที่เสื่อมลงเรื่อย ๆ เหมือนกับอวัยวะส่วนอื่นในร่างกายเช่นกันค่ะ โดยดวงตาของผู้สูงอายุนั้นจะเริ่มพร่ามัวลงเรื่อย ๆ และมองเห็นในระยะใกล้ไม่ชัด ดังนั้นผู้สูงอายุเองก็จำเป็นต้องดูแลสุขภาพของดวงตาด้วยการกินอาหารที่มีวิตามินเอและโปรตีนผสมอยู่ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการจ้องหน้าจอโทรศัพท์หรือโทรทัศน์นานจนเกินไป สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยบำรุงสายตาโดยส่วนใหญ่จะเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่และลูทีนเป็นหลักค่ะ



ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไฟเบอร์: ดูแลระบบย่อยอาหารและการขับถ่ายที่ดี
เพราะปัญหา "ท้องผูก" เป็นปัญหากวนใจผู้สูงอายุหลายท่าน โดยพบว่าอุจจาระมักจะแข็งเป็นก้อน ขับถ่ายน้อย และไม่สามารถขับถ่ายเองได้ ดังนั้นผู้สูงอายุจึงต้องดูแลตัวเองด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพอ กินอาหารที่มีเส้นใยสูง

สำหรับการกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารส่วนใหญ่นั้น นิยมกิน "ไฟเบอร์" ที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นให้ลำไส้ทำงาน และเร่งการขับถ่ายของเสียให้ออกจากร่างกายได้ และสามารถช่วยเรื่องการขับถ่ายได้เช่นกัน

สำหรับผู้ที่ดูแลรูปร่างแต่ไม่ชอบกินผัก แค่เติม ฟิตเน่ ท็อปปิ้ง ไฟเบอร์ มีใยอาหารสูง 4,000 มก. มีส่วนช่วยลดไขมันสะสมตกค้างในร่างกาย ช่วยให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ



ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร: บำรุงร่างกายและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
เครื่องดื่มสมุนไพรสกัดโดยเฉพาะน้ำขิง สมุนไพรไทยที่ทั่วโลกให้การยอมรับว่ามีสรรพคุณมากมายหลายประการ มีประโยชน์เยอะมากกว่าที่คิด เพราะในขิงมีสารสำคัญมากมายเป็นองค์ประกอบที่มีเฉพาะในขิงอย่าง 'จินเจอร์รอล'  มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และระบบการทำงานของร่างกายให้ดียิ่งขึ้น  โดยสามารถดื่มในเวลาที่สะดวกได้เลย รับรองว่าดีต่อสุขภาพของผู้สูงอายุแน่นอน

ฮอทต้า น้ำขิง เครื่องดื่มทางเลือกสุขภาพ ผสมเห็ดสกัด 3 ชนิด ไม่มีน้ำตาล ใช้ซูคราโลสเป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ


ผู้สูงอายุควรกินอาหารเสริมหรือไม่?
คำตอบคือ ผู้สูงอายุไม่ควรกิน หากผู้สูงอายุนั้นยังมีร่างกายที่แข็งแรง กระฉับกระเฉง กินอาหารที่ดี พักผ่อนเพียงพอ อารมณ์แจ่มใส อยู่ในอากาศที่บริสุทธิ์ ก็สามารถทำให้อายุยืนโดยปราศจากการกินอาหารเสริมหรือวิตามินใด ๆ แต่ในปัจจุบันเราพบว่ากลุ่มวัยไหน ๆ ก็กินวิตามินและอาหารเสริมทั้งนั้น อาจเป็นเพราะวิถีชีวิตคนเราเปลี่ยนแปลงไปมากนั่นเอง จากเทคโนโลยีที่ทันสมัย จากการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ จากอาหารการกินที่ปรุงแต่งใส่สารกันบูดมากขึ้น จากความเครียด จากปัญหาสุขภาพ จากการตามกระแสวัยรุ่น เนตไอดอล ดาราที่หันมารักสุขภาพ เราก็ต้องเป็นคนทันสมัย ตามเทรนด์ ทำตามกระแส เป็นต้น

แต่สำหรับผู้สูงอายุก็ได้รับอิทธิพลเหล่านี้ เพราะช่วงอายุที่เปลี่ยนแปลงไป สภาพร่างกายไม่แข็งแรง ขาดการดูแลเอาใจใส่สุขภาพที่ดี 90% ผู้สูงอายุมักเป็นโรคที่เกิดจากการใช้ชีวิตเสียเป็นส่วนมาก หรือบางท่านหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเกิดจากโรคพันธุกรรม ตัวช่วยที่สำคัญคือ การกินสมุนไพรจากธรรมชาติทดแทน ที่แพทย์ส่วนใหญ่ให้การแนะนำ รวมถึงวิตามินเสริม ควบคู่ไปกับการกินอาหารตามหลัก 5 หมู่ สะอาด ผ่านการปรุงแต่งน้อย มีความสดหรือคลีนเสมอ วิตามินบางชนิดที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ นี่ก็จำเป็นหากขาดตัวใดตัวหนึ่งก็ทำให้สุขภาพอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ระบบภายในเริ่มเสื่อมแล้ว การดูดซึมเผาผลาญพลังงานน้อย การเคี้ยวการกลืนลำบาก จากการวิจัยพบว่า ผู้สูงอายุที่กินอาหารไม่เพียงพออาจทำให้ผู้สูงอายุซึมเศร้าได้ เพราะขาดวิตามิน ขาดพลังงาน ทำให้พลังกาย พลังใจจะถดถอยลงไปด้วยซึ่งเป็นผลกระทบที่เกี่ยวข้องกันเป็นอย่างมาก การสังเกตและประเมินด้านโภชนาการของผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิดจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นที่ต้องดูแลและเอาใจใส่อย่างต่อเนื่อง ดังนี้

อาการขาดสารอาหารในผู้สูงอายุ
ผู้สูงอายุที่เริ่มมีอาการขาดสารอาหาร โดยทั่วไปจะเริ่มสังเกตได้ง่าย ดังนี้

• ตัวเล็กและผอมลง แก้มตอบ กล้ามเนื้อขมับทั้งสองข้างเล็กลง ตาลึกลง กล้ามเนื้อแขนขาเริ่มลีบเล็ก
• น้ำหนักลดลงต่อเนื่อง โดยปกติผู้สูงอายุอาจมีน้ำหนักลดลงได้บ้าง แต่ไม่ควรเกิน ร้อยละ 5 ของน้ำหนักตัวเดิม
• มีอาการอ่อนเพลียง่าย เบื่ออาหาร บางรายมีอาการเหม็นหรือไม่ชอบกลิ่นอาหาร วิงเวียนศีรษะอยู่บ่อย ๆ
• มีอาการซึมเศร้า ไม่ร่าเริง หงุดหงิดง่าย
• หลง ๆ ลืม ความจำและการตัดสินใจไม่ดี สมองทำงานไม่เต็มที่
• ผิวพรรณแห้ง แตกลอก เหี่ยวย่นมากกว่าปกติ
• แผลหายช้า เจ็บป่วยอยู่บ่อย ๆ และเมื่อเจ็บป่วยก็หายช้ากว่าปกติ
• ไม่มีแรง เคลื่อนไหวลำบาก นอนไม่หลับ
• นอนซมไม่อยากลุกนั่งหรือเคลื่อนไหวใด ๆ

อาการดังกล่าว สามารถสังเกตและประเมินได้ด้วยคนใกล้ชิดและบุคคลในครอบครัว และหากไม่แน่ใจให้รีบพาผู้สูงอายุในบ้านไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพื่อเจาะเลือดตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุต่อไป

ดังนั้น การเลือกกินอาหารเสริมจึงเป็นทางเลือก รวมทั้งเป็นตัวช่วยในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุในยุคปัจจุบัน เนื่องจากสามารถกินได้ในปริมาณน้อย แต่มีคุณค่าทางสารอาหารได้ตามที่ต้องการ เช่น หากร่างกายต้องการไฟเบอร์ หรือ เส้นใยอาหารประมาณ 25-30 กรัม ผู้สูงอายุต้องกินแอปเปิ้ลขนาดผลกลาง ประมาณ 5-6 ลูก   แต่ถ้ากินอาหารเสริมไฟเบอร์ สามารถรกินเพียงเล็กน้อยก็จะได้สารอาหารครบตามที่ต้องการเป็นต้น

เป้าหมายของการกินอาหารเสริมนั้น เพื่อเพิ่มสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายให้เพียงพอต่อความต้องการ  ดังนั้นการกินอาหารเสริมจึงไม่จำเป็นต้องกินมากเกินความจำเป็น ไม่ต้องกินทุกเพราะสารอาหารบางอย่างร่างกายได้รับจากอาหารหลักอยู่แล้ว  การเลือกกินจึงขึ้นกับวัตถุประสงค์เป็นหลัก

• สำหรับผู้ที่ไม่นิยมกินเนื้อสัตว์ หรือ กินอาหารเจ สามารถเพิ่มอาหารเสริมประเภทโปรตีนได้ โดยโปรตีนที่ร่างกายต้องการต่อ 1 วันคือ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เพื่อใช้ในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและฟื้นฟูสุขภาพร่างกาย  
• การเสริมโปรตีนในผู้สูงอายุที่มีปัญหาน้ำหนักตัวลดลง และภูมิต้านทานต่ำ
• ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการสร้างมวลกล้ามเนื้อชดเชยกล้ามเนื้อที่สูญเสียไป เช่น เวย์โปรตีน เป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย ไม่ทำให้ท้องอืดเหมือนเนื้อสัตว์ และการกินเวย์โปรตีนสำหรับผู้ป่วยเบาหวานนั้น จะช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลินได้ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือดได้ เป็นต้น

ดังนั้น อาหารเสริม หรือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Dietary supplements จึงถูกนำมาใช้เพื่อชดเชยสารอาหารจำเป็นที่ต้องได้รับในแต่ละวัน โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้

1. เพื่อทดแทนสารอาหารจำเป็นที่ร่างกายต้องการในปริมาณสูง แต่มาสามารถจัดหาอาหารหลักมากินได้
2. เพื่อช่วยในการป้องกันหรือลดความเสี่ยงจากการเป็นโรค เช่น อาหารเสริมไลโคปีน (Lycopene) ช่วยป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นต้น
3. ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยเฉพาะอาหารเสริมประเภทกรดอะมิโนต่าง ๆ
4. เพื่อทดแทนพลังงานในร่างกาย หรือ ช่วยบำรุงร่างกายให้กระปรี้กระเปร่า สดชื่น
5. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบประสาทและสมอง
6. เพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายและป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการเป็นโรค
7. เพื่อต้านอนุมูลอิสระ ลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งในระบบต่าง ๆ
8. เพื่อควบคุมน้ำหนักหรือช่วยในการขับถ่าย เช่น อาหารเสริมไฟเบอร์ เป็นต้น

ดังนั้นอาหารเสริมสำหรับผู้สูงอายุนั้น ถือว่า เป็นสิ่งที่สามารถนำมาช่วยในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ลดข้อจำกัดในการกินอาหาร ช่วยให้ผู้สูงอายุได้รับสารอาหารครบถ้วน และมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย สามารถใช้ชีวิตประจำวันอยู่กับลูกหลานและครอบครัวอย่างมีความสุขตลอดไป