LOGIN / REGISTER
OR
New Register
การดำเนินการต่อถือว่าคุณยอมรับ
Terms of Use and Privacy Policy
เราอาจส่งข่าวสารให้ท่าน ท่านสามารถปิดการรับข่าวสาร
ได้โดยเปลี่ยนการตั้งค่าในบัญชีของท่าน
เราจะไม่ส่งข่าวสารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่าน
LOGIN / REGISTER
New Register
Or Login By
OR
Order by Guest Account
การดำเนินการต่อถือว่าคุณยอมรับ
Terms of Use and Privacy Policy
เราอาจส่งข่าวสารให้ท่าน ท่านสามารถปิดการรับข่าวสาร
ได้โดยเปลี่ยนการตั้งค่าในบัญชีของท่าน
เราจะไม่ส่งข่าวสารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่าน
MY CART
Manage Item
ยังไม่มีคำสั่งซื้อ
You might also like
PRODUCTS
CUSTOMER SERVICE
ABOUT US
PROMOTION
REWARDS
HELPING
เหตุผลที่คุณแม่หลังคลอดต้องทานขิง
เหตุผลที่คุณแม่หลังคลอดต้องทานขิง

เพราะสุขภาพของคุณแม่มีความสัมพันธ์กับสุขภาพของลูกน้อยทั้งในครรภ์และนอกครรภ์ ดังนั้นการดูแลสุขภาพร่างกายถือเป็นเรื่องสำคัญที่คุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่หลังคลอดไม่ควรละเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคุณแม่หลังคลอดที่จะต้องฟื้นฟูร่างกายตนเองให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้งในขณะที่ต้องเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ คุณแม่หลังคลอดจึงจำเป็นต้องดูแลร่างกายให้พร้อมเสมอ วันนี้ Live & Fit มีเคล็ดลับดี ๆ ในการดูแลสุขภาพคุณแม่หลังคลอดที่สามารถทำได้ไม่ยาก เพียงแค่หันมารับประทานสมุนไพรที่มีส่วนช่วยในการส่งเสริมสุขภาพองค์รวมอย่าง “ขิง” ค่ะ

ขิง คืออะไร ?
ขิง (Ginger) เป็นสมุนไพรที่ใช้เป็นวัตถุดิบหรือเครื่องเทศปรุงรสอาหาร เพราะรสชาติของขิงมีความเผ็ดร้อนแบบกำลังดีผสานกับกลิ่นหอมอโรมาที่เป็นเอกลักษณ์จึงทำให้ขิงได้รับความนิยมในแวดวงอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเป็นอย่างมากจนกระทั่งเริ่มมีการแปรรูปขิงสดให้ได้เป็นน้ำขิง ผงขิงสกัดพร้อมชง น้ำมันหอมระเหยจากขิง ฯลฯ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคยิ่งขึ้น

ไม่เพียงแต่นิยมใช้เป็นวัตถุดิบและเครื่องเทศในการปรุงอาหาร ขิงยังถูกนำมาใช้เป็นยารักษาโรคตั้งแต่สมัยโบราณกาลตามตำรับยาอายุรเวท และเริ่มมีการนำมาใช้เพื่อจุดประสงค์ทางการแพทย์มากขึ้นในยุคปัจจุบันเนื่องจากมีการรับรองและพิสูจน์ด้วยการศึกษาและงานวิจัยหลายชิ้นที่เชื่อถือได้

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ขิงมีสรรพคุณทางยาที่น่าสนใจเพียงนี้ นั่นเป็นเพราะว่าในขิงมีน้ำมันหอมระเหยที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญอย่าง “จินเจอร์รอล” ที่มีสรรพคุณทางยาและมักถูกนำมาใช้ในการบำบัดรักษาโรคต่าง ๆ ค่ะ ทั้งนี้สรรพคุณทางยาของขิงโดยทั่วไป สามารถนำมาใช้ได้ในหลากหลายอาการหรือสภาวะทางการแพทย์ เช่น
  • บรรเทาอาการคลื่นไส้ – ประโยชน์ทางยาของขิงที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันมากที่สุด คือการใช้เพื่อบรรเทาหรือรักษาอาการคลื่นไส้ อาการวิงเวียนศีรษะที่เกี่ยวข้องกับอาการเมารถ หรือใช้เพื่อบรรเทาอาการแพ้ท้องระหว่างตั้งครรภ์ และยังมีความเชื่อว่า ขิงอาจช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้และอาเจียนในผู้ป่วยมะเร็งหลังการทำเคมีบำบัดได้อีกด้วย
  • ส่งเสริมและปรับปรุงระบบทางเดินอาหาร – ขิงสามารถบรรเทาอาการที่เชื่อมโยงกับระบบทางเดินอาหารได้ เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ การขับลม อาการท้องอืด และอาการท้องผูก
  • ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด – มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า ขิงอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและยังอาจลดระดับคอเลสเตอรอลได้ ไม่เพียงแต่ส่งผลให้ระบบไหลเวียนโลหิตของร่างกายดียิ่งขึ้น แต่ยังอาจส่งผลดีต่อผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้เช่นกัน 
  • ใช้ทดแทนยาแก้ปวด หรือบรรเทาอาการเจ็บป่วย – ด้วยฤทธิ์ในต้านการอักเสบ และต้านเชื้อจุลินทรีย์ของขิง มีความเชื่อทางการแพทย์ว่า ขิงอาจมีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการปวดศีรษะ ปวดไมเกรน ปวดประจำเดือน และปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อได้ ทั้งยังอาจมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อไวรัส ช่วยต่อสู้กับโรคไข้หวัด การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ และช่วยขับเหงื่อเพื่อลดไข้
  • บรรเทาอาการปวดจากโรคข้ออักเสบ – สารจินเจอร์รอลในขิงอาจมีส่วนช่วยในการลดอาการปวดบวมที่เกิดจากโรคข้ออักเสบ เนื่องจากมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ
  • อาจช่วยต้านเซลล์มะเร็ง – เพราะในขิงมีสารจินเจอร์รอลที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ จึงมีการวิจัยในห้องปฏิบัติการเบื้องต้นอย่างต่อเนื่องว่าจินเจอร์รอลอาจช่วยในการฆ่าเซลล์มะเร็งบางชนิดได้หรือไม่

เหตุผลที่คุณแม่หลังคลอดควรทานขิง
นอกจากขิงจะมีสรรพคุณทางยาที่สามารถใช้รักษาหรือบรรเทาอาการโดยทั่วไปที่กล่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว การรับประทานขิงยังอาจช่วยส่งเสริมสุขภาพคุณแม่หลังคลอดร่วมได้เช่นเดียวกัน

สรรพคุณของขิงต่อคุณแม่หลังคลอด
ในหลายประเทศคุณแม่หลังคลอดจะได้เริ่มรับประทานขิงหรือน้ำขิงทันที นั่นเป็นเพราะความเชื่อที่ว่า ขิงหรือน้ำขิงจะช่วยให้คุณแม่หลังคลอดสามารถฟื้นตัวได้ดีหลังการคลอดบุตร การรับประทานขิงระหว่างให้นมลูกยังถือว่าเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในตำรับยาแผนโบราณ เพราะคุณแม่หลังคลอดส่วนใหญ่มักประสบปัญหาเรื่องการผลิตน้ำนมให้ลูกน้อยไม่เพียงพอ ซึ่งหลักการสำคัญในการเสริมสร้างน้ำนมให้เพียงพอนั้น คือการทำให้ร่างกายอบอุ่นก่อนการให้นมลูกทุกครั้ง และเพราะขิงเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์อุ่นจึงช่วยส่งเสริมการผลิตน้ำนมแม่ได้เป็นอย่างดีค่ะ

มากไปกว่านั้นในทางการแพทย์ตะวันตกยังมีความเชื่อว่าขิงทำหน้าที่เป็น “กาแลคตาโกกส์” (Galactagogues) ที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการผลิตน้ำนม กาแลคตาโกกส์นี้เป็นคำที่มักใช้เรียกสมุนไพร อาหาร ยาหรือแนวปฏิบัติที่ใช้ในการเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่ในปริมาณที่ต่ำ

อย่างไรก็ตามการใช้สมุนไพรเพียงอย่างเดียวอาจไม่สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนในการเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่ ดังนั้นเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นคุณแม่หลังคลอดควรมีการกระตุ้นการผลิตน้ำนมโดยให้นมลูกน้อยนานขึ้นในการให้นมแต่ละครั้ง หรืออาจมีการใช้เครื่องปั๊มนมระหว่างหรือภายหลังการให้นมแต่ละครั้งร่วมด้วยค่ะ

การรับประทานขิง สามารถส่งผลต่อรสชาติน้ำนมแม่หรือไม่ ?
เมื่อคุณแม่รับประทานอาหาร รสชาติของอาหารที่คุณแม่รับประทานจะถูกส่งผ่านไปยังน้ำนมส่งผลให้น้ำนมแม่มีรสเปลี่ยนแปลงไปได้ มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าเมื่อคุณแม่รับประทานอาหารที่มีรสชาติเข้มข้น เช่น อาหารที่มีส่วนประกอบเป็นขิง ขมิ้น กระเทียม หรือเครื่องเทศชนิดอื่น ๆ รสชาติของอาหารเหล่านั้นอาจจะส่งผลต่อรสชาติของน้ำนมภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังการรับประทาน และลูกของคุณอาจยอมรับรสชาติหรืออาหารเหล่านั้นมากขึ้นหลังจากได้รับรสชาติต่าง ๆ ผ่านน้ำนมแม่

สำหรับรสชาติของน้ำนมแม่ที่เปลี่ยนไป ลูกน้อยบางคนอาจไม่ปฏิเสธน้ำนมแม่ แต่ลูกน้อยบางคนนั้นมีความไวต่อรสชาติน้ำนมแม่จนอาจปฏิเสธการให้นมแม่ได้ และหากคุณแม่พบว่าลูกน้อยมีทีท่าว่าจะยังคงปฏิเสธน้ำนมอยู่ คุณแม่สามารถหยุดรับประทานขิง หรือปรับเปลี่ยนอาหารและสังเกตดูว่าอาการดังกล่าวของลูกน้อยดีขึ้นหรือไม่ แต่ถ้ายังคงไม่ดีขึ้น คุณแม่อาจลองหันไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการให้นมแม่หรือกุมารแพทย์ค่ะ

ขิงและความปลอดภัยต่อคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่
โดยทั่วไปถือว่าขิงเป็นสมุนไพรที่ปลอดภัย และไม่น่าจะก่อให้เกิดผลข้างเคียงหรือเป็นอันตรายต่อทารกเมื่อใช้ในรูปแบบสดหรือรับประทานในปริมาณที่น้อย แต่เพื่อความปลอดภัย คุณแม่สามารถปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มการปรับเปลี่ยนอาหารหรือรับประทานขิงเพื่อความมั่นใจค่ะ

ขิงและความปลอดภัยต่อคุณแม่ตั้งครรภ์
สำหรับคุณแม่ให้นมบุตรที่มีการตั้งครรภ์ สามารถรับประทานขิงต่อไปได้ เนื่องจากขิงมีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการแพ้ท้อง คลื่นไส้ ซึ่งสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์รับประทานขิงได้อย่างปลอดภัย เพียงแต่ต้องรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ

ข้อแนะนำในการรับประทานหรือใช้ขิงสำหรับคุณแม่หลังคลอด
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเทศหรือสมุนไพรใด ๆ มักมีสรรพคุณในการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกันออกไป แม้แต่ขิงที่เป็นพืชสมุนไพรก็จัดเป็นได้ทั้งยาและอาหาร ขึ้นอยู่กับปริมาณที่รับประทานที่มีส่วนส่งผลให้เกิดอาการแพ้หรือความผิดปกติหลังรับประทานขิงหรือผลิตภัณฑ์จากขิง หากชื่นชอบในการดื่มน้ำขิงแล้วเกิดความไม่สบายใจควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติมได้นะคะ

คุณแม่หลังคลอดสามารถรับประทานขิงในรูปแบบใดได้บ้าง ?

ขิงสด
  • การรับประทานขิงสดคือการใช้ส่วนรากหรือแก่นเหง้ามาเป็นวัตถุดิบในอาหารจานหลัก โดยอาจใช้เป็นรากขิงสดขูดโรยด้านบนอาหาร เช่น โจ๊กใส่ขิงสด หรือนำมาผัดเป็นอาหารจานร้อนอย่างเมนูไก่ผัดขิง หรือแม้แต่ทำเป็นคุกกี้หรือขนมปังก็ได้รสชาติที่อร่อยและแตกต่างในแบบเมนูขิงค่ะ

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารขิง
  • สำหรับการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร คุณแม่ที่อยู่ระหว่างการให้นมลูก อาจจำเป็นต้องเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เสียก่อนเพื่อการใช้ผลิตภัณฑ์ในปริมาณที่ถูกต้องเพื่อความปลอดภัยและเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

เครื่องดื่มจากขิง เช่น น้ำขิง ชาขิง
  • เครื่องดื่มจากขิง เช่น น้ำขิง ชาขิง เป็นทางเลือกที่ไม่เพียงแต่ดีต่อสุขภาพแล้ว ยังช่วยมอบความรู้สึกความผ่อนคลายเพราะกลิ่นอโรมาและรสชาติที่เผ็ดร้อนแบบกำลังดี ที่สำคัญยังอุดมไปด้วยสารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่าง จินเจอร์รอล (Gingerol) ที่ทำให้ร่างกายอบอุ่นและช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต

หากคุณแม่กำลังตั้งครรภ์อยู่ การดื่มน้ำขิงอาจช่วยในการบรรเทาอาการวิงเวียนคลื่นไส้จากการตั้งครรภ์หรืออาการแพ้ท้องได้ เพียงแค่ดื่มน้ำน้ำขิงเป็นประจำไม่เกิน 4 แก้วต่อวัน (950 มิลลิลิตร) และสำหรับคุณแม่หลังคลอด ทางเราขอแนะนำว่าควรดื่มน้ำขิงก่อนให้นมลูกน้อยประมาณ 30 นาทีเพื่อให้น้ำนมไหลดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ลูกน้อยไม่ปวดท้อง ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ลดการบีบตัวของลำไส้และอาการปวดท้องเกร็งได้ค่ะ

หากคุณแม่ตั้งการชงเครื่องดื่มจากขิงด้วยตนเอง คุณแม่สามารถเลือกใช้ได้ทั้งขิงสดหรือขิงสกัดชนิดผงแบบซองเพื่อความสะดวก แต่สิ่งสำคัญในการเลือกขิงสกัดหรือน้ำขิงแบบซอง คุณแม่ควรเลือกยี่ห้อที่ผ่านการรับรองด้านมาตรฐานการผลิตเพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพยิ่งขึ้นค่ะ

ในส่วนของขั้นตอนในเตรียมน้ำขิงหรือชาขิงชงดื่มด้วยตนเอง สามารถทำได้ง่าย ๆ ตามขั้นตอนที่ ดังนี้

วิธีเตรียมน้ำขิงหรือชาขิง
  1. ต้มน้ำในหม้อใบเล็กบนเตา เมื่อน้ำเดือดแล้วให้ยกหม้อออกจากเตา
  2. หั่นขิงสดหรือขิงแห้งเตรียมไว้ 2-3 ชิ้น จากนั้นแช่ขิงทิ้งไว้ในน้ำร้อนประมาณ 5 นาที หรืออาจใช้เป็นขิงผงชนิดซองสำหรับชงดื่มทดแทนเพื่อความสะดวก
  3. นำขิงออกจากน้ำแล้วสามารถดื่มได้ทันที แต่ถ้าหากต้องการเพิ่มรสขิงให้หวานขึ้นสามารถทำได้โดยการเติมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชาหรือ 2 ช้อนชา และอาจเติมรสเปรี้ยวเล็กน้อยด้วยมะนาวหรือเลมอนฝานชิ้นได้ค่ะ


สำหรับวิธีการชงน้ำขิงหรือชาขิงข้างต้น คุณสามารถปรับเปลี่ยนวัตถุดิบหลักอย่าง ขิงซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งขิงสดหรือขิงผง เพราะในยุคปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ขิงสกัดชนิดผงพร้อมชงดื่มที่คงไว้ด้วยคุณค่าทางสารอาหารและสรรพคุณทางยาไม่แพ้ขิงสดค่ะ
แชทผ่านไลน์ @Liveandfit