LOGIN / REGISTER
OR
New Register
การดำเนินการต่อถือว่าคุณยอมรับ
Terms of Use and Privacy Policy
เราอาจส่งข่าวสารให้ท่าน ท่านสามารถปิดการรับข่าวสาร
ได้โดยเปลี่ยนการตั้งค่าในบัญชีของท่าน
เราจะไม่ส่งข่าวสารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่าน
LOGIN / REGISTER
New Register
Or Login By
OR
Order by Guest Account
การดำเนินการต่อถือว่าคุณยอมรับ
Terms of Use and Privacy Policy
เราอาจส่งข่าวสารให้ท่าน ท่านสามารถปิดการรับข่าวสาร
ได้โดยเปลี่ยนการตั้งค่าในบัญชีของท่าน
เราจะไม่ส่งข่าวสารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่าน
MY CART
Manage Item
ยังไม่มีคำสั่งซื้อ
You might also like
PRODUCTS
CUSTOMER SERVICE
ABOUT US
PROMOTION
REWARDS
HELPING
สุขภาพดี เริ่มต้นที่แคลอรี่ ตอนที่ 3 "ฟิตแน่แค่นับแคลอรี่"
สุขภาพดี เริ่มต้นที่แคลอรี่ ตอนที่ 3 "ฟิตแน่แค่นับแคลอรี่"

แคลอรี่ (Kcal) เป็นหน่วยของพลังงานที่พบในอาหารและเครื่องดื่มที่เรากินเข้าไป ไม่ว่าอาหารจะมากหรือน้อย ทั้งหมดล้วนมีแคลอรี่ที่เปรียบเสมือนเป็นเชื้อเพลิงพลังงานให้เกิดการขับเคลื่อนของระบบกลไกการทำงานในร่างกายและทำให้รู้สึกอิ่ม มีพลัง มีเรี่ยวแรง ในระหว่างการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การหายใจ เดิน นั่ง ฯลฯ และพลังงานแคลอรี่ก็ถูก *เผาผลาญออกไปตามการขับเคลื่อนต่าง ๆ ของร่างกาย และเติมเข้าไปใหม่ได้ด้วยการกินหรือดื่ม ที่ในบางครั้ง “กินมากไปก็อ้วน กินน้อยไปก็หิวบ่อย” จึงต้องกินอาหารให้สอดคล้องกับความต้องการของร่างกาย ซึ่งในแต่ละวัยจะมีความต้องการพลังงานจากอาหารที่แตกต่างกันไป

เพราะในหนึ่งวัน แต่ละคนมีการเผาผลาญปริมาณแคลอรี่มาใช้เป็นพลังงานไม่เท่ากัน
  • ผู้ชาย ต้องการปริมาณแคลอรีเพื่อใช้เป็นพลังงานต่อวันอยู่ที่ 1,800-2,500 กิโลแคลอรี่
  • ผู้หญิง ต้องการปริมาณแคลอรี่เพื่อใช้เป็นพลังงานต่อวันอยู่ที่ 1,500-2,000 กิโลแคลอรี่

ซึ่งเราเรียกว่า อัตราการเผาผลาญพลังงานพื้นฐานของร่างกาย (Basal Metabolic Rate) นั่นเอง

*กระบวนการเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงานในร่างกายเรียกว่า “เมตาบอลิซึม (Metabolism)” ซึ่งในวัยหนุ่มสาว การเผาผลาญของแต่ละคนอาจจะยังสมบูรณ์ดี กินเยอะเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ระบบเผาผลาญพลังงานเริ่มอ่อนกำลังลงเรื่อย หรือเรียกได้ว่าระบบเผาผลาญพลังงานบกพร่อง อาหารที่เคยกินปกติไม่ได้ถูกเผาผลาญพลังงานอย่างเต็มที่เหมือนเคย ก็จะเริ่มมีพลังงานเหลือใช้ ทำให้ร่างกายต้องเก็บสะสมพลังงานส่วนเกินนี้ไว้ในรูปแบบของไขมัน เป็นเหตุผลว่ากินอาหารเท่าเดิม เมื่อก่อนทำไมไม่อ้วน เดี๋ยวนี้น้ำหนักขึ้นง่ายจัง แถมยังต้องเสียดายเงินทองซื้อเสื้อผ้าใหม่อีกด้วย

คำนวณแคลอรี่ที่เหมาะสมต่อวัน



มีสูตรคำนวณต่าง ๆ และคำแนะนำมากมายที่ไม่มีหลักตายตัว ทางที่ดีคือคุณต้องจัดปริมาณหรือนับแคลอรี่ที่เหมาะสมสำหรับตัวคุณเอง โดยความเป็นจริงคือ ร่างกายของเราใช้พลังงาน 60% จากปริมาณแคลอรี่เพื่อการดำเนินชีวิตพื้นฐาน จำนวนแคลอรี่ที่เราสามารถเผาผลาญในอัตรานี้เรียกว่า BMR (basal metabolic rate)

พลังงานที่เหลืออีก 40% ร่างกายจะใช้ไปกับกิจกรรมประจำวัน และการขับถ่าย โดย 30% ของพลังงานใช้ไปกับกิจกรรมทางกาย และ 10% ใช้ไปกับการขับถ่ายของเสีย ด้วยกระบวนการดังกล่าว จึงทำให้การคำนวณปริมาณแคลอรี่ที่กินต่อวัน เห็นผลชัดเจนต่อสุขภาพและน้ำหนักตัวของเรานั่นเอง

ตัวอย่างการคำนวณแคลอรี่ BMR ที่เหมาะสมกับคุณต่อวัน



หรือคลิก โปรแกรมคำนวณให้คุณแบบง่าย ๆ

ดังนั้น การรู้ว่าแคลอรี่ที่เหมาะกับเราคืออะไร จะสามารถทำให้เราควบคุมสมดุลร่างกายได้ทางหนึ่ง แม้ว่าแคลอรี่ที่เหมาะสมต่อวัน สามารถคำนวณได้คร่าว ๆ จากปัจจัยของร่างกาย คือ ความสูง น้ำหนัก อายุ และ กิจกรรมต่อวัน แต่จริง ๆ แล้ว พลังงานที่ต้องการในแต่ละวันของแต่ละบุคคล ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นความถี่ในการออกกำลังกาย ปริมาณไขมันและกล้ามเนื้อ รวมทั้งกิจกรรมในสายอาชีพที่ต่างกัน และประสิทธิภาพการทำงานร่างกาย ภาวะทางอารมณ์ รวมทั้งเป้าหมายการควบคุมน้ำหนักที่ต่างกันนะคะ อย่าลืมติดตามเรื่องราว สุขภาพดี เริ่มต้นที่แคลอรี่ ได้ในตอนต่อไปค่า ^^

สามารถคลิกอ่าน EP.1 ความสำคัญของแคลอรี่ และ EP.2 แคลอรี่ ความเหมือนที่แตกต่าง รับรองว่าจะเข้าใจในความเป็น แคลอรี่ มากขึ้น ค่ะ
แชทผ่านไลน์ @Liveandfit